SHARE

คัดลอกแล้ว

พปชร.ออกแถลงการณ์ 3 ข้อ มั่นใจเป็นเเกนนำจัดตั้งรัฐบาล เเต่จะเเถลงหลัง กกต.รับรองผลทางการเลือกตั้ง อย่างเป็นทางการ จี้ กกต.แจงข้อกังขาสังคม ปัดฮุบกระทรวงเศรษฐกิจ ขอสื่อเลิกตั้งคำถามปักหมุดจ้องซื้องูเห่า

วันที่ 29 มี.ค. 62 พรรคพลังประชารัฐ นัดประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรค โดยมี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน มีแกนนำและคณะกรรมการยุทธศาสตร์เข้าร่วม เช่น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค , นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง , นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน , นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง , ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ , นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ กทม. , นายสุชาติ ตันเจริญ นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายอิทธิพล คุณปลื้ม แกนนำพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค และนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค

นายอุตตม อ่านแถลงการณ์ของพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า จากผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความไว้วางใจ เลือกผู้สมัครและพรรคพลังประชารัฐจนได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 8,433,137 คะแนน โดยมีผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งครบทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพฯ

ดังนั้น 1.พรรคพลังประชารัฐขอยึดมั่น และจะทำหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องรักษาประโยชน์ของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

2. พรรคพลังประชารัฐ ขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองเคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนในทุกคะแนนเสียงที่ได้เลือกผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดก็ตาม ย่อมถือว่าเป็นสิทธิของประชาชน ผู้ใดก็ตามไม่ควรที่จะนำไปใช้อ้างว่าประชาชนที่สนับสนุนฝ่ายตนเองเป็นฝ่ายที่ชอบธรรมแต่ฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะจะนำไปสู่การแบ่งแยกพี่น้องประชาชน อันอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมเหมือนเดิม

และ 3.พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลว่า ทุกพรรคการเมืองสามารถรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ในระหว่างที่ กกต. ยังไม่สามารถประกาศและรับรองผลการเลือกตั้งอย่างทางการ โดยเฉพาะการคำนวณจำนวน ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ ดังนั้นการรวบรวมเสียง ส.ส.เพื่อสนับสนุนการของรัฐบาล ย่อมยังจะไม่มีผลทางการเมือง ที่จะประกาศชัดเจนว่าขั้วการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเสียงสนับสนุนครบถ้วนถูกต้องแล้ว

นายอุตตม ยังกล่าวถึงความมั่นใจในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ว่า ขณะนี้ กกต.ยังไม่ได้แถลงผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ การพูดเรื่องจัดตั้งรัฐบาล ถือว่ายังไม่สิ้นสุด แต่การเจรจาเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ดังนั้นเราจะยังไม่แถลงสิ่งใดๆก่อนเวลาที่จะรับทราบผลอย่างเป็นทางการจาก กกต.

ส่วนจะได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นๆ แต่ขอยังไม่พูดว่าจะฟอร์มรัฐบาลได้ หรือ รัฐบาลเป็นของเรา เพราะขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการ จึงไม่ขอเอ่ยชื่อพรรคการเมืองที่ได้ไปคุยมา

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวพรรค พปชร.จะกุมกระทรวงเศรษฐกิจไว้ทั้งหมด จึงทำให้พรรคการเมืองอื่นไม่กล้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล นายอุตตม กล่าวว่า ยังไม่มีการต่อรองตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงไม่มีการกว้านซื้อตัว ส.ส.ตามที่มีกระแสข่าวอย่างแน่นอน

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวถึงกรณีที่ กกต.ถูกวิจารณ์ว่า ทำหน้าที่เข้าข้างพรรคพลังประชารัฐว่า พรรคเราก็เหมือนพรรคอื่นที่เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน ไม่มีใครช่วย และ กกต.ก็ไม่ได้ช่วย ตรงกันข้ามทางพรรคก็อยากเรียกร้องให้ กกต.ชี้แจงข้อกังขาของสังคมไทยที่มีต่อ กกต. เช่น การประกาศคะแนนที่ล่าช้ามาจากสาเหตุใด การประกาศคะแนนจาก 95 % เป็น 100 % คะแนนที่เพิ่มขึ้นมาจากไหน การนับคะแนนบัตรดี บัตรเสีย และระบบการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่พรรคมีคะแนนรวมมากขึ้นจาก 7 ล้านกว่าคะแนน เป็น 8 ล้านกว่าคะแนน แต่กลับมีตัวเลข ส.ส.บัญชีรายชื่อลดลง จึงอยากให้ กกต.ชี้แจงความชัดเจน เพราะพรรคก็มีข้อกังขาเช่นกัน ดังนั้น กกต.ต้องพิสูจน์ตัวเอง
นายสนธิรัตน์ ย้ำว่า ขอให้ทุกฝ่ายเคารพทุกเสียงของประชาชน และไม่ควรถูกนำไปกล่าวอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรม ซึ่งพรรคมีความกังวลเรื่องการแบ่งฝ่ายนำไปสู่ความขัดแย้งซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ

“บรรยากาศในขณะนี้ที่น่าเป็นห่วงคือการใช้คำพูดปักหมุดแล้วขยายผล แล้วสังคมก็จะหลงตามคำพูดนั้นๆ ดังนั้นในแต่ละคำถามที่เกิดขึ้น ผมขอให้ใช้ความเป็นจริง และข้อเท็จในการติดตามสถานการณ์ อย่างเช่นกรณี ที่ระบุว่ามีการซื้อตัวต่างๆ จะซื้อได้อย่างไร เมื่อคะแนนยังไม่นิ่ง แล้วมาโยนให้ทางพรรคเป็นผู้ทำงูเห่า ดังนั้นผมขอถามกลับว่า มาทำงูเห่าทางพรรคพลังประชารัฐบ้างหรือเปล่า มาซื้อตัวคนของพรรคผมบ้างหรือไม่ อันนี้คือคำถามดังนั้นอย่าไปปักหมุดอะไรทั้งสิ้น

ส่วนความเคลื่อนไหวในการฟอร์มทีมรัฐบาลเป็นเรื่องของพรรคแกนนำ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่การฟอร์มรัฐบาลครั้งนี้แตกต่างจากอดีต โดยสิ้นเชิง เพราะมีเงื่อนเวลาของงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งสำคัญที่สุดของพี่น้องชาวไทย ดังนั้นการประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ จึงมีขึ้นหลังพระราชพิธี

บัดนี้การเลือกตั้งเสร็จแล้ว อาจจะเห็นโฉมหน้ารัฐบาลได้บ้างแต่ยังไม่สามารถเห็นบทสรุป จึงต้องรอให้ กกต.ประกาศผลอย่างเป็นทางการ และตอนนั้นจึงจะนำไปสู่การรวบรวมเสียงที่ชัดเจน ระหว่างนี้พรรคก็จะทำงานของพรรค และเตรียมร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และให้ความมสำคัญกับเรื่องนี้มากที่ที่สุดในเดือน เม.ย.เป็นต้นไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า