SHARE

คัดลอกแล้ว

หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังมั่นใจรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ ชี้ “คะแนนรวม” คือเสียงสะท้อนประชาชนไม่ใช่ดูเฉพาะเขต จับมือกับพรรคไหนต้องสนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ เลขาธิการพรรค เรียกร้องหยุดเรียก “ฝั่งประชาธิปไตย” 

วันที่ 27 มี.ค. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงข่าวถึงความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล หลังก่อนหน้านี้ 6 ชั่วโมง พรรคเพื่อไทยร่วมกับอีก 5 พรรคการเมืองลงสัตยาบันต่อต้านอำนาจคสช. และจะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน

นายอุตตม กล่าวถึงการแถลงจัดตั้งรัฐบาลว่า ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ทั้งนั้น เพราะเราถือว่ายังมีเวลา ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเกินไป เราจะทำก็ทำให้ออกมาดีๆ คำว่ารวมเสียงได้ก่อนนั้น ขณะนี้ยังไม่มีใคร น่าจะรวมเสียงที่เป็นทางการได้เพราะขบวนการยังไม่เสร็จ ก็พูดมาได้ว่าเสียงเท่าไหร่แสดงเจตนารมย์ที่จะร่วมกันพยายามจัดตั้งรัฐบาลอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำได้

เมื่อถามว่า พรรคที่คุยคือพรรคภูมิใจไทยและพรรคเศรษฐกิจใหม่ใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ยังอยู่ในขั้นของการพูดคุย ขอยังไม่เปิดเผยชื่อว่ามีพรรคไหนบ้างที่ได้มาร่วมหารือกัน เรามั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะสามารถร่วมกับพรรคที่เห็นตรงกันจัดตั้งรัฐบาลได้ เสียงเท่าไหร่รอดู จะพยายามเสียงให้ได้มากที่สุด คะแนนยังไม่นิ่งจะพูดคุยก็ต้องคำนึงว่ายังไม่เป็นทางการ ยังมีเวลา กกต.ยังไม่ได้แถลงตัวเลขทางการ เราจะไม่เร่งออกมาแถลงสิ่งใด จริงๆ แล้วไม่แน่ใจว่า การแถลงวันนี้เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนหรือจะทำให้เกิดความสับสนยิ่งขึ้น เราจะไม่ทำเช่นนั้น ถ้าเราจะแถลงเราแถลงที่มีสาระ เป็นประโยชน์ เราไม่ได้วาทกรรมเป็นหลัก

เมื่อถามว่า ถ้ากกต.เปิดคะแนนวันศุกร์นี้ (29 มี.ค. 62) จะสามารถคิดคำนวณ ส.ส.เป็นทางการได้หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่ากกต.พร้อมแถลงเมื่อไหร่ เราก็จะทำงานในส่วนของเรา ในส่วนการหารือถ้าตัวเลขพร้อม ทุกอย่างจะชัดเจน เพราะถ้าเกิดมีใบแดงหรืออะไรขึ้นมาก็เปลี่ยนได้เลย แต่ถ้าตัวเลขนิ่งเดินได้เลยไม่ต้องมาใช้เวลามาแถลงโน่นนี่นั่น และมั่นใจจะเข้าสู่เป้าหมายได้ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเป้าหมายว่าจะได้เท่าไหร่

“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็เป็นฉบับใหม่ที่กำหนดกลไก ที่เป็นแบบสัดส่วนผสมเพราะฉะนั้นคะแนนนิยม หรือคะแนนรวมย่อมมีความสำคัญไม่ใช่ดูแต่เขต เพราะว่าคะแนนนิยม คะแนนรวมเป็นสิ่งซึ่งสะท้อนเสียงของพี่น้องประชาชนทุกคนที่มาลงคะแนน พรรคพลังประชารัฐจึงยึดมั่นอยู่ในจุดที่ว่า คะแนนตรงนี้มีความสำคัญเป็นเสียงของพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นจุดเริ่มต้น” นายอุตตม ระบุและว่า การที่จะรวบรวมเสียงก็มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลได้ เราไม่ได้ปิดกั้นใคร เราไม่ได้ออกเสียงเรียกร้องให้เราตั้งก่อนเราไม่เคยพูด ถ้ากลุ่มไหนตั้งได้ ตัวเลขนิ่งแล้วตั้งได้เลย

นายอุตตม ยังคงไม่เปิดเผยว่ามีการพูดคุยกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่หรือไม่ บอกเพียงว่า อยู่ในกระบวนการจึงขอสงวนชื่อไว้ก่อนว่าพรรคไหนบ้าง ต้องให้เกียรติเขาตัดสินใจ และมีการพูดคุยกับหลายพรรค

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายกัญชาเสรี พรรคพลังประชารัฐรับได้หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ต้องมาพูดคุย แต่พรรคก็เคยพูดไปว่าแนวทางใช้กัญชาเรื่องการแพทย์เราสนับสนุน แต่รายละเอียดต้องคุยกัน เชื่อว่า อุดมการณ์ร่วมกันสามารถคุยกันได้ ซึ่งกับพรรคร่วมอุดมการณ์แน่นอนเราสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ตรงนี้จะใช้เป็นจุดยืนที่จะพูดคุยกับทุกพรรค

(สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ)

สนธิรัตน์ : วันนี้ที่พูดกันว่ารวมเสียงได้ ก็ยังไม่รู้ว่าเสียงที่ชัดเจนนั้นจริงๆ เท่าไหร่ เพราะขณะนี้กกต. ก็ยังไม่ได้แถลงการณ์ที่ชัดเจนว่า พรรคที่บอกได้เท่านั้นเท่านี้นั้นจริงๆ แล้ววันนี้ได้เท่าไหร่เพราะคะแนนเปลี่ยนทุกวัน ดังนั้นการที่เกิดการรวมตัวกันแล้วอ้างความชอบธรรม เป็นเพียงกลไกทางการเมืองเพื่อจะแสดงความชอบธรรม แต่ในข้อเท็จจริงนั้นความชอบธรรมที่แสดงนั้น ยังไม่ได้มีที่มาของข้อมูลที่ถูกยืนยัน

การดำเนินการอย่างนี้เป็นการดำเนินการเพื่อจะช่วงชิง จะพยายามสร้างว่าพรรคของกลุ่มของพวกเขาเป็นพรรคที่รวบรวมเสียงข้างมากได้ ทั้งที่ประกาศวันนี้ ถ้าดูในการแถลงจริงๆ แล้วยังไม่รู้จะเรียกว่ามีกี่พรรคแน่นอน เป็นเพียงการฉกฉวยในสถานการณ์ฉุกเฉินทำให้รู้สึกว่ามีความชอบธรรม กระบวนการยังไม่เสร็จสิ้นเลย คะแนนที่แท้จริงและชัดเจนยังไม่ออกมาเลย และระยะเวลาที่จะดำเนินการนั้นมีมากพอสมควร ประกอบกับผลการเลือกตั้งครั้งนี้มีการคิดคะแนนรวมทั้งประเทศ ปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งแตกต่างสิ้นเชิงกับอดีตในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ เราดำเนินการทางการเมืองที่เหมาะสม เป็นไปตามความเป็นจริง และยังมั่นใจว่าพรรคยังเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพียงแต่ไม่ใช่เวลาที่จะออกมาแล้วอ้างประกาศชัยชนะในวันนี้เวลานี้ทั้งที่สถานการณ์ยังไม่มีอะไรที่ยุติ

เรียนประชาชนและสื่อมวลชนทั้งประเทศ หยุดได้แล้วครับกับการอ้างฝ่ายประชาธิปไตย เพราะว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้คะแนนเสียงไม่ว่าเท่าไหร่ก็ตาม ทุกคนเข้าสู่การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย ถ้าไม่ใช่ประชาธิปไตยพวกเขาก็ต้องไม่ลงแข่งขันด้วยตั้งแต่วันแรก ถ้าอ้างว่าเป็นเผด็จการ สืบทอดอำนาจ พรรคเหล่านั้นก็ไม่ต้องลงเข้าสู่การเลือกตั้ง พรรคเหล่านั้นก็กระเหี้ยนกระหือเพื่อเอาชนะการเลือกตั้งไม่ใช่เหรอครับ แต่พอผลการเลือกตั้งออกมา และระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งก็ใช้วาทกรรม “ฝ่ายประชาธิปไตย”

คำถามครับพี่น้องประชาชนที่เลือกพรรคพลังประชารัฐ 7.9 ล้านเสียง และถือว่ามีเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนมากที่สุด แปลว่าคนเหล่านั้นไม่ต้องเคารพเสียงประชาชนเลยหรือครับ แปลว่าเสียงประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยจะเป็นเฉพาะเสียงที่พวกเขาได้ประโยชน์เท่านั้นหรือถึงเป็นประชาธิปไตย แล้วพี่น้องประชาชน 7.9 ล้านคนที่เลือกพลังประชารัฐเขาไม่มีสิทธิมีเสียงหรือครับ อีกประมาณ 17 ล้านคนที่ไม่ได้ไปแถลงข่าววันนี้ พวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่ฝั่งประชาธิปไตยเหรอครับ ประชาธิปไตยที่แท้คือการเคารพเสียงของทุกคน เคารพพี่น้องประชาชน เคารพแม้กระทั่งเสียงหนึ่งเสียง มันเป็นพื้นฐานของประชาธิปไตยใช่หรือไม่ แล้วใช้สิทธิอะไรมาเรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แล้วเรียกคนที่ไม่ลงคะแนนให้ตัวเองว่าไม่ใช่ฝ่ายประชาธิปไตย ผมถือว่าเป็นการดูถูกพี่น้องประชาชน และเป็นการอ้างประชาธิปไตยเพื่อสร้างความแตกแยกของบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง ประชาธิปไตยอย่างนี้นั้น ไม่ใช่ประชาธิปไตยเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน แต่เป็นประชาธิปไตยเพื่อพวกพ้องเท่านั้น

ก็อยากวิงวอนว่าขอหยุดเถอะครับ สิ่งที่พวกท่านทำมานั้นไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตย สิ่งที่เรากำลังทำนั้นบรรยากาศประชาธิปไตยกำลังเดินหน้าไปด้วยดี เราต้องเคารพทุกเสียงของพี่น้องประชาชนที่ตัดสินใจ แล้ววันนี้ไม่มีฝ่ายประชาธิปไตย และไม่มีฝ่ายเผด็จการ พรรคพลังประชารัฐดำเนินการตามครรลองของประชาธิปไตย เพียงแต่พรรคมองเห็นว่า บุคคลที่เหมาะสมในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ คือท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เราจึงเชิญท่านมาในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่พรรคพลังประชารัฐยืนยันด้วยจุดยืนของพรรคว่า พรรคนี้คือพรรคประชาธิปไตย และเราเป็นประชาธิปไตยที่คิดถึงพี่น้องประชาชน พยายามอย่างยิ่งที่จะให้ประเทศเดินต่อไปได้ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สร้างวาทกรรมแบ่งแยกให้เกิดความรู้สึกคนละฝั่งคนละฝ่ายตอกย้ำประเทศอย่างที่เป็นมา

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า