พายุซัดเรืออับปาง 9 ชีวิตลอยคอกว่า 2 ชม. จ.ตราดพร้อม ช่วยไว้ได้ทัน

ประเด็นคือ– เกิดพายุใหญ่พัดเรือไดฟ์นักตกปลา 9 คนอับปาง ลอยคอนานกว่า 2 ชม. เรือเร็วเข้าช่วยได้ทัน ขณะบ้านเรือนหลายแห่งถูกต้นไม้ล้มทับเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 เม.ย. 61) ที่ท่าเรือเทพกรรมกร หมู่ 1 บ้านอ่าวสำโรง ต.บางปิด อ.แหลมงอบ จ.ตราด เรือสปีดโบ๊ทชื่อ อินทรีย์ทอง ได้นำนักท่องเที่ยวตกปลาจำนวน 8 คน พร้อมไต๋เรือ 1 คน รวม 9 คน มาขึ้นที่ท่าเรือหลังเรือประมง ชื่อ ส.สายลม นำนักตกปลาและไต๋เรือมาขึ้นที่ท่าเรือกรรมการ หลังเกิดพายุพัดถล่มเมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ เหตุเกิดที่บริเวณหินลอย หินจม ระหว่าง ต.แหลมสิงห์ -เกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี

โดยสภาพของนักตกปลาทุกคนอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่มีสภาพอิดโรย ซึ่งประกอบด้วย นายสืบศักดิ์ หอยสังข์ อายุ 37 ปี ไต๋เรือ, นายอภิเดช จิตนาวสาร อายุ 27 ปี ลูกเรือ, นายสามารถ พรพิทักษ์ อายุ 39 ปี ลูกเรือ, นายชิตชอบ โอก อายุ 38 ปี, นายมงคลค บุญเกิน อายุ 39 ปี, นายเจริญชัย ดอกเหม อายุ 36 ปี, นายนพดล ดอกเหม อายุ 33 ปี และนายชาญชัย ทนตะคุ อายุ 36 ปี เมื่อมาถึงท่าเรือ ได้นำสัมภาระและร่วมรับประทานอาหารเช้ากันที่บริเวณท่าเรือ

ต่อมาในเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผวจ.ตราด หลังทราบข่าวได้เดินทางไปเยี่ยมนักท่องเที่ยวที่ท่าเรือ พร้อมนายฐิตินันท์ อุดมสุข หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตราด

ซึ่งที่ท่าเรือมีนายชาญชัย พชรวรางกูร ปลัดอำเภอแหลมงอบ, นายสุชาติ จิตมุ่งมโนธรรม นายก อบต.บางปิด และทหารจากฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด, ตำรวจน้ำแหลมงอบ และได้สอบถามถึงเหตุการณ์พร้อมแสดงความยินดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้

นายสืบศักดิ์  หอยสังข์ ไต๋เรือ บอกว่า ได้เดินทางนำนักท่องเที่ยวทั้ง 8 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวตราด และ จ.จันทบุรี เดินทางไปตกปลาที่บริเวณที่บริเวณหินลอย หินจม ระหว่าง ต.แหลมสิงห์ – เกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 6 เม.ย. 61 แต่มาเกิดพายุคลื่นลมแรงในเวลา 05.00 น. ซึ่งคลื่นสูงถึง 2-3 เมตร ทำให้เรือประมงมีน้ำไหลเข้ามามาก แม้จะพยายามนำน้ำออกจากเรือก็ไม่สามารถทำได้ทัน เรือประมงค่อยๆ จมลงในระยะเวลา 20 นาที จึงได้บอกให้ทุกคนเทน้ำถังทิ้ง เทน้ำมันทิ้งและใช้เป็นทุ่นลอย พร้อมผูกสัมภาระให้อยู่รวมกัน และเกาะอยู่รวมกันเพื่อจะสามารถหาพิกัดได้ง่าย

จากนั้นได้แจ้งขอความช่วยเหลือทุกหน่วย แต่คลื่นลมแรงมาก เรือเล็กไปไม่ได้ ที่สุดเรือสปีดโบ๊ทของท่าเรือเทพกรรมการไปช่วยได้ทัน

ขณะนายชิตชอบ โอก นักตกเรือคนหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า ช่วงเรือจมตกใจมาก เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน และได้ฟังคำสั่งจากไต๋เรือที่ให้เทน้ำถังทิ้ง เพื่อใช้เป็นทุ่นในการลอยตัว พร้อมให้อยู่กันเป็นกลุ่ม ใช้เชือกพันสัมภาระทั้งหมด และใช้เวลาอยู่ในน้ำ 2-3 ชั่วโมง เห็นเรือสปีดโบ้ทมาช่วย รู้สึกดีใจมาก และมองว่ารอดชีวิตแล้ว ต้องขอบคุณส่วนราชการที่เข้าช่วยเหลือ

นายประเสริฐ กล่าวว่า ได้รับแจ้งทางไลน์จาก ปภ.ตราดจึงได้ติดตามสถานการณ์ต่างๆ และประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ปรากฏว่าทั้งทหารเรือ ตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างตราดได้ประสานเหตุอย่างดี และสามารถเดินทางไปที่เกิดเหตุได้ แม้จะมีเรือสปีดโบ็ทไปช่วยได้ก่อน แต่ก็ไม่เป็นไร ซึ่งได้สะท้อนถึงความพร้อมของหน่วยงานด้านความปลอดภัยของ จ.ตราด เป็นอย่างดี ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยว จ.ตราด ขอให้มั่นใจว่า หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ทาง จ.ตราดมีความพร้อมช่วยเหลือทันที