ประเด็นคือ – พายุฤดูร้อนพัดถล่มสวนทุเรียน ใน 4 ตำบล 7 หมู่บ้าน ที่ จ.จันทบุรี ส่งผลให้ต้นทุเรียนล้มหักโค่น และลูกร่วงกว่า 80 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท จนท.เข้าช่วยเหลือ
วันที่ 8 เม.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.30 น. นายปิยะ สมัครพงศ์ เกษตร จ.จันทบุรี และ นายสุเนส เฉียงเหนือ นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.จันทเขลม พร้อมด้วยเกษตร อ.เขาคิชฌกูฏ ได้รับแจ้งจาก นายสมบัติ แก้วงาม ผู้ใหญ่บ้าน ว่าพื้นที่ หมู่ที่ 3 ,4, 6, 8 ต.จันทเขลม หมู่ที่ 6 ต.คลองพลู หมู่ที่ 10 ต.พลวง และหมู่ที่ 5 ต.ชากไทย อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มสวนทุเรียนล้มหักโค่น ลูกร่วงหล่นเสียหาย ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่มาสำรวจความเสียหายด้วย
หลังรับแจ้ง นายปิยะ สมัครพงศ์ เกษตร จ.จันทบุรี และนายสุเนส เฉียงเหนือ นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.จันทเขลม พร้อมด้วยเกษตร อ.เขาคิชฌกูฏ ได้ลงพื้นที่ พบความเสียหายต่อสวนผลไม้ โดยเฉพาะต้นทุเรียนโค่นล้ม จำนวน 100 กว่าต้น ผลผลิตที่ใกล้จะเก็บเกี่ยว ร่วงหล่นเป็นจำนวนมาก น้ำหนักรวมกว่า 80 ตัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 15 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และเยี่ยมให้กำลังใจเกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบ
นายปิยะ สมัครพงศ์ เกษตร จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือ จะเร่งให้ตรวจสอบพื้นที่และประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติธรรมชาติ เพื่อช่วยเหลือตามระบบต่อไป ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดลองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 ด้านการเกษตร ไม้ผล ไม่เกินรายละ 30 ไร่ ในอัตราไร่ละ 1,690 บาท
นอกจากนี้ ยังมีการแนะแนวทางการป้องกันและลดผลกระทบเนื่องจากวาตภัย (ด้านพืช) ให้กับเกษตรกรชาวสวน โดยให้ปลูกต้นไม้บังลม เพื่อลดความรุนแรงของลมก่อนที่จะถึงสวนไม้ผล ตัดแต่งกิ่งที่แน่นทึบ และกิ่งที่ไม่ให้ผลผลิตออก ส่วนต้นไม้ผลที่มีอายุมาก และมีลำต้นสูงๆ อาจตัดทอนส่วนยอดให้ต่ำลง เพื่อป้องกันการโค่นล้ม และใช้เชือกหรือไม้เพื่อช่วยพยุงและค้ำต้นไม้ไม่ให้โค่นได้ง่าย อีกทั้งยังควรทยอยเก็บไม้ผลออกจำหน่ายก่อน เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ได้มีการสั่งให้เกษตรอำเภอ ชุดปฏิบัติการแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพของอำเภอที่ประสบภัย ลงพื้นที่ตรวจสอบในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้ทุเรียนที่โดนลมที่ด้อยคุณภาพออกสู่ตลาดต่อไป