ที่โคราช พบหมูและแมวติดโรคพิษสุนัขบ้า โดยหมูถูกสุนัขที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้ากัด หลังถูกกัด 2 สัปดาห์ หมูก็ตาย ด้านปศุสัตว์อำเภอฯ แนะวิธีปฏิบัติ หากถูกสัตว์เลี้ยงกัดหรือข่วน ให้รีบล้างสบู่-ทาเบตาดี-พบแพทย์เร็วที่สุด
วันที่ 5 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิมุต ทนุธรรมนอก ปศุสัตว์อำเภอเมืองนครราชสีมา ได้รายงานสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าระบาดต่อที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเมืองนครราชสีมา ณ หอประชุมอำเภอเมืองนครราชสีมา ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ว่า พบโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เขตพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา 12 ตำบล
ประกอบด้วย ต.ในเมือง, ต.หนองระเวียง, ต.จอหอ, ต.พุดซา, ต.ตลาด, ต.หัวทะเล, ต.หนองบัวศาลา, ต.โพธิ์กลาง, ต.หนองไข่น้ำ, ต.พลกรัง, ต.หนองจะบก และ ต.สุรนารี โดย10 ตำบล ผลการตรวจพบเชื้อพิษสุนัขบ้าในสุนัข ยกเว้น ต.พลกรัง พบเชื้อในหมู และ ต.โพธิ์กลาง พบเชื้อในแมว
โดยหมูที่พบเชื้อเกิดจากหมูที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ถูกสุนัขไล่กัด และมีอาการป่วยตายหลังถูกกัด 2 สัปดาห์ และเจ้าของได้ตัดเอาหัวหมูนำส่งให้ปศุสัตว์ และส่งไปตรวจที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.สุรินทร์ ซึ่งผลออกมาก็พบเชื้อพิษสุนัขบ้าดังกล่าว จึงขอฝากให้ผู้นำท้องถิ่นแจ้งเตือนชาวบ้านในหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ ที่สัมผัสกับสัตว์เลี้ยง หรือถูกสัตว์กัดหรือข่วน
-
- ให้รีบชะล้างแผลด้วยน้ำเปล่าที่สะอาดและล้างด้วยสบู่
- ทาแผลด้วยเบตาดีน
- รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อปฐมพยาบาล และเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามกำหนด
- ห้ามผิดนัดแพทย์อย่างเด็ดขาด
- จากนั้นให้กักขังสุนัข หรือสัตว์เลี้ยงที่กัดหรือข่วน อย่างน้อย 10 วัน เพื่อสังเกตอาการผิดปกติ ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
- เมื่อสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงเสียชีวิต ให้นำหัวส่งห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
ส่วนสัตว์เลี้ยงทั่วไป เจ้าของก็ต้องนำไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและโรคต่างๆ ตามกำหนดด้วย
(ขอบคุณภาพประกอบปกจาก นพรัตน์ แก่นพรหม)