SHARE

คัดลอกแล้ว

พีท ทองเจือ ชี้แจง กรณีโดนเอี่ยว มีส่วนเกี่ยวข้องกักตุนหน้ากากอนามัย เหตุไปโผล่ในคลิปไลฟ์ นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ เสี่ยบอย ที่ไลฟ์เฟซบุ๊กว่า มีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น เพื่อส่งขายประเทศจีน จึงทำให้ พีท โดนหางเลขกับเรื่องนี้ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นพรรคพวกเดียวกัน โดยลบ่าสุด พีท ทองเจือได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และไม่รู้จักชายเจ้าของไลฟ์ดังกล่าว ในวันเกิดเหตุไปถ่ายละครที่พัทยา ซึ่งชายเจ้าของไลฟ์ หรือ เสี่ยบอย อยู่ในสถานที่เดียวกัน และให้ตนทักทายในไลฟ์เท่านั้นเอง

พีท ทองเจือ

ชี้แจงกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ?

“ก็คำแรกที่อยากจะพูดเลยว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย แล้วก็จริงๆ แล้วครอบครัวเราก็เป็นครอบครัวที่ใช้คำว่าเป็นผู้ถูกกระทำ เพราะว่าเป็นประชาชนชาวไทยที่ใช้ความเป็นอยู่อย่างไม่มีความปลอดภัยเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งหมายความว่า ทุกๆวันไม่มีองค์กรหรือหน่วยงานไหนที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยของไอ้ไวรัสร้ายอย่างจริงๆจัง น่าจะพูดถึงแล้วพยายาม คราวนี้ประเด็นก็คือว่าพอมันมีคลิปอันนี้ออกมา ถึงเรื่องที่กักตุนหน้ากากไว้เพื่อที่จะทำราคาเพิ่มหรือว่าที่จะส่งออก แล้วก็ดันมีภาพผมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ไม่ค่อย สำหรับผมเองไม่ค่อยโอเค เพราะว่าวันที่เกิดเหตุผมถ่ายละครอยู่ที่พัทยาแล้วสถานที่นั้นน่ะ พี่ผู้ชายคนนั้นเขามาที่นั่นแล้วผมไม่เคยเห็นเขามาก่อน ไม่ได้รู้จักเป็นส่วนตัวนะครับ แล้วก็ถ่ายเหมือนกำลังไลฟ์อยู่แล้วเขาก็เหมือนเขาพยายามบอกเราว่า มีคนพัทยาดูอยู่เยอะให้ทักทายหน่อย ผมก็สวัสดีครับชาวพัทยา เสร็จแล้วถ้าสังเกตจะเห็นว่ากล้องเขาเดินมาหาผมแล้วก็จะเดินออกไปแล้วก็ไปคุยกันตรงอื่น ซึ่งถ้าตามหลักความเป็นจริงแล้ว ถ้าผมเป็นคนในกลุ่มหรือเป็นทีมเดียวกัน เขาจะต้องคุยกับผมเรื่องนี้ตรงนั้นเลย แต่เขาเดินไปคุยกันตรงไม่มีผม และผมก็เป็นแบล็คกราวน์ไปก็เลย”

กับตัวพี่เล็กเองได้คุยกันไหม?

“ไม่เคยคุยเลยครับ ก็มีพี่ๆผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้เยอะ ผมจะขอโอกาสนี้บอกเลยว่าถ้าเป็นส่วนของพี่เล็ก ก็ให้พี่เล็กออกมาชี้แจงเองผมไม่สามารถพูดอะไรแทนได้”

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อไหร่?

“ประมาณต้นเดือนก่อนที่เพลงน้องมิย่าจะออก เพลงมิย่าปล่อย lyrics ตอนประมาณวันที่ 12 ก่อนวันวาเลนไทน์ 2 วัน อันนี้เกิดขึ้นประมาณมันเป็นคิวเสาร์-อาทิตย์ เกิดขึ้นประมาณอาทิตย์หนึ่งก่อนวาเลนไทน์ครับ”

แสดงว่าเรื่องเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนที่แล้ว?

ใช่ๆ เขาเตรียมการณ์มานานแล้ว มันก็แค่เดือนหนึ่ง ประมาณเดือนหนึ่ง

เหตุการณ์ส่งผลกระทบอะไรกับพีทบ้าง?

“ก็ไม่มีอะไรคือสำหรับผม เนื้อข่าวหรือการที่โดนข่าวกระแทกเข้ามาแบบนี้ สำหรับผมแล้วประสบการณ์ที่อยุ่วงการบันเทิงมาเรื่องนี้ไม่สะเทือนแม้แต่นิดเดียว ความจริงก็คือความจริงถ้าบุคคลคนนี้ถูกตรวจสอบแล้วถูกดำเนินคดี และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดถูกลากตัวออกมา เดี๋ยวรอดูความจริงว่าผมเกี่ยวข้องหรือเปล่า เอาความจริงเป็นหลักดีกว่า”

ส่วนตัวได้คุยกับพี่เล็กไหม?

“ยังไม่ได้คุยเลยครับ วันนี้ผมวิ่ง วันนี้น่าจะงานที่ 4 แล้วก็ยุ่งเหมือนกัน”

กับผู้ชายคนนั้นไม่รู้จัก?

“ไม่รู้จักครับผม ก็ขอให้โชคดี”

ได้ไปแจ้งความไหม?

“อยากไปมากแต่ยังไม่มีเวลา คาดว่าจะเป็นพรุ่งนี้เช้าครับ ผมจะแจ้งความเพราะว่าอย่างแรกเลยคือการเอาผิดเขามันอาจจะทำอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือปกป้องตัวเองให้พ้นจากมลทินหรือสิ่งที่เขาพยายามจะยื่นมาให้ถึงตัวเรา ว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น คือแสดงความบริสุทธิ์ใจ ถ้าในอนาคตถูกตรวจสอบอย่างน้อยเราได้แสดงความบริสุทธิ์ใจเบื้องต้นแล้ว”

หากแจ้งจะไปแจ้งข้อหาอะไร?

“ก็นำมาซึ่งความเสื่อมเสียงของเรา”

พีทได้รับผลกระทบอะไรบ้าง?

“ไม่มีครับ มีแต่คำถามครับ พอเราอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นไปทุกๆฝ่ายก็รับได้ แต่เป็นเรื่องปกติ เช่นในโลกโซเชียล ที่จะมีทั้งบวกแล้วก็สนับสนุนเรา แล้วก็ไม่ฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ด่าอย่างเดียวอันนั้นก็ไม่เป็นไร เรารับได้ไม่มีปัญหา”

กรณีของพี่เล็กก็น่าจะเป็นแบบของเราไหม?

“อันนี้ผมตอบแทนไม่ได้ ผมขออนุยาตไม่วิเคราะห์ของพี่เล็กดีกว่าครับ”

เครียดไหมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น?

“ไม่เครียดครับ รุ่นนี้ไม่เครียดแล้ว”

วันนั้น หลังกล้องได้เห็นเขาคุยกันไหม?

“เขาก็คุยกัน เราก็รอเข้าฉาก เขาเดินไปอีกสักแป๊บหนึ่งผมก็ไปทำงาน แล้วก็ไม่ได้เห็นเขา”

เขาสนิทกับคนในกองเราขนาดไหน ถึงเข้าไปในกองเราได้?

“จะเล่าให้ฟังสั้นๆ พวกกองถ่ายละครเวลาไปอยู่ต่างจังหวัดถ้าไม่ได้ถ่ายในป่าในเขา หมายถึงว่าถ่ายตามโลเคชั่นที่อยู่ในเมือง ก็จะมีคนออกมาดูไม่ว่าจะเป็นแฟนๆ ละคร คนที่รู้จักกับคนทำงานในกอง ไม่ว่าจะรู้จักกับทีมงานหรือดารา เขาก็จะออกมากันนะครับ เหตุการณ์นี้ก็เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่มีคนรู้จักที่เป็นคนข้างนอกเข้ามาในกอง แล้วก็มาถ่ายไลฟ์นู้นู้นนี่นั่น แล้วก็พวกผมก็ถูกติดเข้าไปในภาพเคลื่อนไหวในนั้นด้วย”

เหมือนเอาเราไปช่วยการโปรโมตทั้งที่เราไม่รู้เรื่อง?

“ใช่ ก็ลักษณะนั้นครับ เหมือนประมาณว่าพีทพวกเราทั้งนั้น อย่าลืมนะใครมีหน้ากากอยากขายให้เรา”

มีอะไรอยากฝากบอกเขาไหม?

“ไม่มีครับ บอกให้พี่เอาตัวเองให้รอดแล้วกันครับ ข่าวมันทำให้กวนใจว่าผมไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องขอโทษด้วย แต่ถ้าผมคลายความกระจ่างแล้วก็ยังฟังยังไม่ขึ้นก็รอขบวนการยุติธรรมหรือการดำเนินคดีให้เป็นสิ่งตัดสินว่าผมถูกหรือผิดหรือว่าเกี่ยวข้องหรือเปล่า ที่เหลือก็แค่ฝากนิดเดียว ขอให้พี่น้องชาวไทยช่วงนี้นะครับ เหตุการณ์เมื่อคืนเกิดขึ้นมันจะมีอะไรต่างๆอีกมากมายเกิดขึ้น ก็ขอให้เรื่องสิ่งที่คิดไม่เหมือนกัน ไม่ตรงกันเอาทิ้งไปก่อน เราจับมือกันแล้วก็ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ทุกคนดีกว่า เพราะว่าเมื่อก่อน  แผ่นดินไหว น้ำท่วมหรือว่าพายุเข้า อันนี้รับได้ แต่ปัจจุบันนี้ยืนเฉยๆ ไวรัสเข้าจมูกคุณแล้ว เพราะฉะนั้นอย่างอื่นไม่ต้องนึกถึง เอาตัวเองให้รอดก่อน”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า