SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – พี่สาววัย 33 ปี ไม่ท้อชีวิต เลี้ยงดูน้องชายอายุ 30 ปี และต้องจำใจขังน้องในบ้านยาวนานกว่า 15 ปี ที่พิการทางสมอง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยรักษา เป็นของขวัญปีใหม่

วันที่ 26 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งใน ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบพี่น้องที่ประสบปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ มีฐานะยากจน บ้านพักอาศัยอยู่ผุๆ พังๆ หนำซ้ำพี่สาวต้องเลี้ยงน้องชายที่มีอาการทางสมองผิดปกติ ไม่ยอมใส่เสื้อผ้า และจำใจขังไว้อยู่ภายในบ้านเป็นเวลากว่า 15 ปี เพราะเกรงว่าออกมาจะได้รับอันตราย ซึ่งเป็นที่เวทนาแก่ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงก็พบ น.ส.สุภาศิริ คำวิรัช อายุ 33 ปี กำลังอยู่ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว โดยภายในบ้าน มีนายเอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ป่วยเป็นผู้พิการทางสมอง อยู่ในสภาพเปลือยกายเดินเข้าออกห้องภายในบ้าน บางครั้งก็ยืนกระโดดด้วยการฟังเสียงเพลงจากวิทยุกระจายเสียง สลับกับนอนเล่นบนที่นอนที่เก่าทรุดโทรม กับพัดลม 1 ตัว และมีกลิ่นเหม็นของปัสสาวะเคล้าคลุ้งไปทั่วห้องนอน โดยด้านนอกถูกล็อกประตูเอาไว้

ด้าน น.ส.สุภาศิริ เล่าว่า ผู้ชายที่อยู่ในห้องเป็นน้องชายของตนเอง อายุ 30 ปี สาเหตุที่ต้องขังไว้ เพราะป่วยพิการทางสมองมาตั้งแต่มื่อ 15 ปีก่อน โดยไม่สามารถช่วยตัวเองได้ และยังชอบแก้ผ้าตลอดเวลา จึงต้องขังไว้กลัวเดินหายไป และต้องเปิดเพลงไว้ให้ เพราะฟังเพลงแล้วจะสงบไม่โวยวาย

สำหรับที่ที่อาศัยอยู่แต่เดิมเป็นที่ของพ่อแม่ แต่หลังจากที่พ่อเสียไป น้องชายก็เกิดอาการทางสมองขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ แม่ก็พยายามหาเงินรักษาจนกระทั่งต้องนำที่ดินแปลงนี้ไปจำนองกับนายทุน เพื่อนำเงินมารักษาน้องชาย แต่ก็ไม่หาย สุดท้ายแม่ก็มาหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะกลัวนายทุนมายึดเอาบ้านและที่ดิน และทิ้งให้ตนต้องดูแลน้องชายที่ป่วยทางสมองมาจนถึงปัจจุบัน

โชคดีที่นายทุนยอมให้อยู่ในบ้านนี้ไปก่อนชั่วคราว ส่วนตนต้องออกไปเช่าบ้านอยู่ต่างหาก โดยรับจ้างทำงานในร้านกาแฟได้ค่าแรงวันละ 300 บาท และต้องขอลางานนำอาหารมาส่งให้น้องชายทุกวัน เพราะชาวบ้านไม่กล้าช่วย เนื่องจากน้องชายมักควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ชาวบ้านจึงกลัว ส่วนตนน้องก็เคยทำร้ายร่างกาย แต่ทนได้และต้องทน เพราะเป็นน้องชายเป็นแบบนี้

ทุกวันนี้ก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ต้องรับภาระเลี้ยงดูน้องชายเพียงคนเดียว ลำพังค่าแรงจากการทำงานก็ไม่เพียงพอที่จะพาน้องชายไปรักษาอาการของโรคนี้ให้หายได้ เพราะที่ผ่านมาได้เข้าขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่นให้ช่วยเหลือเรื่องเบี้ยยังชีพผู้พิการ แต่จนถึงขณะนี้ล่วงเลยมานาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แต่เพียงแจ้งว่ายังอยู่ในระหว่างการพิจารณา และไม่อยากจะคิดว่าหากวันใดที่ตนไม่อยู่เสียชีวิตกะทันหัน น้องจะอยู่อย่างไร หากเจ้าของที่ดินให้ออกจะไปอยู่ที่ไหน

จึงอยากวอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐและผู้ใจบุญ ที่มีทุนทรัพย์เรื่องให้ช่วยนำน้องชายไปรักษาให้อาการดีขึ้น จะขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง และถือเป็นของขวัญปีใหม่ชิ้นพิเศษสำหรับตนเองและน้องชาย

สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือ สามารถโอนเงินเข้าไปที่บัญชีชื่อ น.ส.สุภาศิริ คำวิรัช ธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัส บ้านฉาง มายเลขบัญชี 770-023-1967

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า