โลกออนไลน์แชร์คลิปสะเทือนใจ เมื่อคนเป็นพ่อต้องก้มกราบลูกแท้ๆ เพราะลูกเมายา และทำร้ายผู้เป็นพ่อ ล่าสุด ตำรวจคุมตัวแล้ว ยินยอมกราบเท้าพ่อคืน พร้อมกับด่าพ่ออย่างไม่สำนึก
จากกรณีเฟซบุ๊ก อยากดังเดียวจัดให้ V.3 ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า ลูกติดยาบ้าขนาดหนักมาขอเงิน พ่อไม่ให้มาทำร้ายพ่อ ต่อยพ่อจนต้องก้มลงกราบเท้า ไม่อย่างนั้นไม่ยอม ยังไม่พอเอาหมวกกันน๊อกฟาดพ่อต่ออีก ตอนนี้ติดยาขนาดหนัก อยากเอาเขาไปบำบัดแต่ไม่ยอม ชื่อ ประพนธ์ หรือ นิว
https://www.youtube.com/watch?v=LxKdV3L4H7Y
วันนี้ (19 ต.ค.61) ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้เดินทางไปสอบถาม นายเจริญศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้เป็นพ่อ และเป็นเจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าว ได้เปิดใจว่า เหตุผลที่ต้องอัดคลิป เนื่องจากระยะหลังลูกชายเริ่มเสพยาเสพติด จนมีอาการหนักขึ้น เช่น ตาขวาง จ้องเขม็ง และคอแข็ง พร้อมที่จะทำร้ายคนรอบข้างได้ตลอดเวลา และเหตุการณ์ล่าสุด ที่ตนเองยอมก้มลงกราบลูก เพราะอยากให้ลูกชายหยุดอาละวาดจากฤทธิ์ยาเสพติด เพื่อหวังให้มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาดูแล บำบัดลูกชายให้หายเป็นปกติ
โดยคุณพ่อรายนี้บอกทั้งน้ำตาว่า ลูกชายติดยามาประมาณ 3-4 ปี โดยตนเองมีลูก 2 คน และเป็นลูกชายทั้งคู่ ซึ่งคนก่อเหตุเป็นลูกชายคนโต ที่หวังจะให้มาสืบต่อธุรกิจของครอบครัว เพราะเป็นคนเรียนเก่ง มีอนาคตสดใส แต่ทุกอย่างต้องพังทลายเพราะยาเสพติด
ทีมข่าวถามถึงวินาทีที่กราบลูก กลัวลูกจะบาปหรือไม่ คุณพ่อตอบกลับมาว่า เขาบาปตั้งแต่เริ่มติดยาและทำให้พ่อแม่เสียใจแล้ว ซึ่งถ้าเขากลับมาเป็นคนดีได้อีกครั้ง ต่อให้มากกว่ากราบพ่อก็ทำให้ได้
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ ที่ สน.สุทธิสาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจได้ควบคุมตัว นายประพนธ์ มาจากซอยลาดพร้าว 48 คุมตัวมาที่โรงพักสุทธิสาร พร้อมประสานผู้เป็นพ่อ ให้มาพบที่ห้องสืบสวน
โดยนายเจริญศักดิ์ ผู้เป็นพ่อ กล่าวด้วยน้ำตาคลอว่า ในฐานะพ่อ ตัวเองพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ลูกกลับคืนมา และไม่ประสงค์จะดำเนินคดี
ขณะที่ นายประพนธ์ ยินยอมกราบเท้าพ่อบังเกิดเกล้าคืน ก่อนกล่าวว่า สิ่งที่พ่อพูดนั้นโกหก พออยู่ต่อหน้าไมโครโฟนก็พูดอีกอย่าง ทั้งที่ไม่ได้เลี้ยงตนมาตั้งแต่เกิด

นายประพนธ์ กราบเท้า นายเจริญศักดิ์ ผู้เป็นพ่อ
ทั้งนี้ เมื่อนายประพนธ์ พูดจาลักษณะนี้และมีอาการคล้ายคนเมายา ทางตำรวจจึงรีบนำตัวนายประพนธ์ กลับไปห้องสืบสวนทันที
ด้าน พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร กล่าวว่า จากการตรวจปัสสาวะของนายประพนธ์นั้น พบว่าฉี่ม่วง มีสารเสพติด เบื้องต้นนายประพนธ์ยอมรับว่า เพิ่งเสพยาบ้ามา แต่ก็ยินดีไปบำบัด
ส่วนเรื่องคดีทำร้ายร่างกายนั้น เป็นของ สน.ปทุมวัน ก็ต้องให้ท้องที่เกิดเหตุรับผิดชอบไปดำเนินการเอง แต่นายเจริญศักดิ์ ไม่ประสงค์จะดำเนินคดี