SHARE

คัดลอกแล้ว

ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ โพสต์ข้อความการเลี้ยงลูกของคุณลุงประสาน เจ้าของร้านขายยาย่านลาดพร้าว ซึ่งเป็นพ่อของ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม จากภารกิจถ้ำหลวง

จากกรณีการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ในพื้นที่วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. กระทั่งเมื่อกลางดึกวันที่ 2 ก.ค. 61 ทีมช่วยเหลือก็ค้นพบทั้ว 13 คน โดยในขณะนี้ จนท.กำลังหาหนทางนำทั้งหมดออกมาจากถ้ำให้ได้อย่างปลอดภัย

โดยบุคคลที่ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก ในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำ ที่วางแผน ดำเนินการ และประสานงาน ให้ผู้ร่วมงานสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างลุล่วง ก็คือ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทำให้เรื่องราวความเป็นมาของเขาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

ล่าสุด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ซึ่งเป็นลูกค้าประจำร้านขายยาของ “คุณลุงประสาน โอสถธนากร” ก็ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก  Arnond Sakworawich ถึงเรื่องราวการเลี้ยงลูกของคุณลุง ที่มีนายณรงค์ศักดิ์ เป็นบุตรชายคนโต ดังนี้

ผมเป็นลูกค้าประจำของร้านประสานเภสัช ที่ปากซอยภาวนา ลาดพร้าว 41 คุณลุงประสาน โอสถธนากร เจ้าของร้าน เป็นคนซื่อตรง พูดตรง โอบอ้อมอารี ขายของในราคาเป็นธรรม ไม่โก่งราคา และมีน้ำใจ ทำให้เป็นที่ชอบพอของชาวบ้านย่านนี้ และขายยามากว่า 50 ปีแล้ว

คุณลุงมีลูก 4 คน เป็นผู้หญิงหนึ่งคน ผู้ชายสามคน มีหลาน 4 คน เป็นหลานสาวสามคน และหลานชายหนึ่งคน เวลาไปซื้อยา คุณลุงจะเล่าเรื่องลูกหลานให้ฟังด้วยความภาคภูมิใจมากว่า เลี้ยงลูก 4 คน หลาน 4 คน ได้เรียนหนังสือกันดีๆ และจบปริญญาโททุกคน คุณลุงพูดถึงลูกหลานอย่างมีความสุขที่สุด

วันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าใหญ่ในการประสานทุกหน่วยงานในการแก้ไขภัยพิบัติลูกหมูป่า 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ณ ดอยขุนน้ำนางนอน จนเป็นที่รู้จักในบุคลิกภาพแบบเอาจริงเอาจัง พูดน้อย ตรงไปตรงมา และโผงผาง ฉะฉาน

…ผมได้ไปซื้อยาที่ร้านประสานเภสัช เลยถามคุณลุงว่า เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ได้ดี แบบท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย คุณลุงยิ้มแบบคนใจดี แล้วตอบว่า “ผมเลี้ยงลูกแบบทหาร เลี้ยงลูกให้มีวินัย เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี หลานผมก็เลี้ยงแบบเดียวกัน

“ลูกคนโต (ท่านผู้ว่าฯ เชียงราย) เขาบอกว่าป๋า (หมายถึงคุณลุงประสาน) โคตรจะดุและเป็นเผด็จการมาก ผมดุลูกมาก และให้ลูกมีระเบียบวินัย เพราะผมเคยเป็นทหารมาก่อน

“ผมเป็นทหารเสนารักษ์ ที่ค่ายจักรพงษ์ จังหวัดปราจีนบุรี อันที่จริงผมเป็นคนแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา ก่อนจะไปเป็นทหารผมเกเรมาก เล่นพนัน กินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ผมไปเป็นทหารแล้วได้เรียนทางเสนารักษ์ เลยเป็นเสนารักษ์ พอหนีเที่ยว ผมโดนซ่อมหนัก ผมอายมาก เหนื่อยไม่เท่าไหร่ หนักไม่เท่าไหร่ แต่อายคน ผมเลยกลับเนื้อกลับตัว ผมลาออกมาจากทหาร แต่ได้อะไรจากการเป็นทหารเยอะมาก และผมเอาวิธีการฝึกทหารมาใช้เลี้ยงลูกทุกคน ลูกผมจึงได้ดี

“นอกจากนี้ผมก็ยังได้วิชาเสนารักษ์มา ชอบและมีความสุขในการช่วยเหลือคนอื่น ขายยานี่มีความสุข เราขายไม่แพง ขายในราคาเป็นธรรม ให้ชาวบ้านที่ยากจนได้เข้าถึงยา ผมยังไม่เลิกขายแม้ลูกๆ บอกให้เลิก เพราะยังมีความสุขกับการได้ช่วยชาวบ้านจนๆ ได้เข้าถึงยา ผมขายไม่แพงนักคุณก็รู้ ผมอยากจะเลิกแต่ลูกค้าบอกว่าอย่าเลิก ผมขายถูกกว่าทุกร้าน เพราะผมไม่ได้อยากจะเอากำไรอะไรมากมาย แต่ผมมีความสุขที่ได้เจอคน ได้ช่วยคน

“ถ้าถามว่าผมเลี้ยงลูกยังไง ผมก็จะตอบว่า ผมเลี้ยงลูกแบบทหาร อะไรที่ถูก ลูกทำถูก ผมชม ผมให้กำลังใจ อะไรที่ผิด ไม่สมควรทำ ผมก็ลงโทษ ผมเข้มงวดแบบมีเหตุผล ต้องมีเหตุผล ไม่ใช่ใช้อารมณ์

“ผมไม่ยอมให้ลูกสบาย สอนให้ลูกลำบาก ทำงานทุกอย่าง ลูกสี่คน ต้องทำงานในร้านทุกอย่าง คนโตนี่เขารู้เรื่องยาดีมาก ขายยาแทนได้ จัดของได้ สั่งยาได้ ผมไม่ยอมให้ลูกสบาย

“อีกอย่างคือเราต้องทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง เราซื่อสัตย์กับลูกค้า เราสอนลูกด้วยการทำให้ดู ผมบอกลูกเสมอว่า เงินหลวงบาทเดียวก็ต้องไม่โกง ผมสอนลูกว่าห้ามรับเงินใครทั้งนั้น แม้กระทั่งลูกน้อง หรือข้าราชการด้วยกัน ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

“ลูกผมโตมาในกรมที่ดิน มีผลประโยชน์เยอะ ข้าราชการในกรมที่ดินทราบดีว่าให้เงินให้ทองลูกผมไม่รับ แต่ถ้าเป็นผลไม้นิดๆ หน่อยๆ ของที่ไม่มีราคา เป็นน้ำใจแก่กัน ผมบอกว่าให้ลูกผมรับ

“คุณไปถามในกรมที่ดินได้เลยว่า คนในกรมเขาชมลูกผมเรื่องนี้อย่างไร ผมสอนลูกผมมาแบบนั้น ผมบอกให้ลูกทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง ให้ลูกประคองตัว ลูกผมมีหัวหน้ามาหลายคน มีสองคนเข้าคุกไปแล้ว คนหนึ่งเรื่องคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ อีกคนเรื่องการเลือกตั้ง… ผมบอกลูกว่า ให้ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น แล้วลูกผมก็เป็นคนโผงผาง ตรงไปตรงมา ไม่กลัวใครเสียด้วย

“ร้านขายยาผมเปิดมา 50 ปี ตู้ไม้สักใส่ยาที่คุณเห็นก็ห้าสิบปี ตอนนั้นเงินจะทำตู้ยังไม่มีเลย ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ซื้อ เก็บหอมรอมริบ ผมบอกลูกว่าไม่รวยก็ไม่เป็นไร ขอให้ซื่อสัตย์เท่านั้น

“ผมเองสอนลูกเรื่องความกตัญญูด้วยการทำให้ดู ผมไปดูแลแม่ผมที่แปดริ้วตลอด และผมก็พาลูกไปด้วย และให้ลูกเคารพและดูแลย่า ลูกผมก็อยากให้ผมเลิกขายของ เขาจะดูแลผม แต่ผมยังมีความสุขกับการขายยาและได้ช่วยเหลือลูกค้า ผมทำบุญตลอด คนขับแท็กซี่สามล้อ เขาลำบากกว่า ผมก็ทิปให้ทุกครั้ง ครั้งละ 20 บาท ผมมีความสุขกับการให้และการทำบุญ การช่วยเหลือคนอื่น

“ผมสอนลูกว่า จะถูกย้ายไปที่ไหนก็ได้ ลูกเป็นข้าราชการ ไม่ได้ลงทุนอะไรแบบคนอื่นที่เขาวิ่งเต้นเรื่องตำแหน่งด้วยเงินกันเป็นล้านๆ ผมบอกลูกว่ามีเงินก็อย่าทำเช่นนั้น การที่ลูกผมไม่ได้ลงทุนอะไรเลยแล้วเติบโตมาด้วยความสามารถและผลงาน ทำให้ผมภูมิใจ บอกลูกว่าไปที่ไหนก็ได้ ขอให้ได้ทำงานเพื่อส่วนรวม ได้ตำแหน่งมาเท่านี้ก็ดีมากแล้ว ถือว่าดีกว่าคนอื่นตรงที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย (ในการวิ่งเต้นเส้นสาย)”

“แปดเก้าวันนี้ผมเหนื่อยมาก นอนน้อย ดูโทรทัศน์ทั้งวันจนดึกดื่น ห่วงลูก เห็นว่าลูกทำงานหนัก ได้โทรไปคุยกันให้กำลังใจลูกเสมอ ลูกคนอื่นเขาก็มาเฝ้าผมตอนกลางคืน ผลัดกันมา มาอยู่เป็นเพื่อน กลัวผมไม่นอน เพราะตามข่าวลูกคนโตตลอดเวลา”

ข้อมูลและภาพ จาก เฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า