พ่อฝรั่งเศร้า รับศพน้องดานี่ โต้ ไม่เคยทำร้ายแม่เด็ก

จากเหตุการณ์ที่ เด็กลูกครึ่งที่ตกตึกพร้อมพี่น้องรวม 4 คน ล่าสุด เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ด้านพ่อเผย ไม่เคยคิดทำร้ายแม่ของเด็ก แค่ต้องการพูดคุย

จากอุบัติเหตุสุดสลดที่มี 4 พี่น้องลูกครึ่งไทย-สวิส พลัดตกจากระเบียงห้องพักภายในซอยรามคำแหง 34 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ทำให้น้องคนเล็ก ด.ช.คนัธชา ริคกี้ โบเรล หรือน้องอเล็กซ์ อายุ 5 ขวบ เสียชีวิต ส่วนอีก 3 คน บาดเจ็บ คือ ด.ญ.ดีมา พาเมล่า โบเรล หรือ น้องดีดี้ อายุ 11 ปี , ด.ช.ลูก้า ฟรองซัว โบเรล หรือน้องต้นกล้า อายุ 10 ปี , ด.ญ.ชนิดา เดล โบเรล หรือน้องดานี่ อายุ 7 ปี ที่มีอาการสมองบวม โหนกแก้มแตก กระดูกหักหลายแห่ง เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 61 เวลา 01.30 น.

ต่อมาวันที่ 12 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้องดานี่ หรือ น้องชนิดา เดล โบเรล อายุ 7 ปี พี่สาวของน้องอเล็กซ์ ที่ก่อนหน้านี้เคยหยุดหายใจ 2 รอบ แต่ทีมแพทย์ยื้อชีวิตไว้ได้ แต่ยังไม่รู้สึกตัว และยังมีอาการสมองบวม โหนกแก้มแตก กระดูกหักหลายแห่ง ต้องตัดม้ามออก อาการโคม่า รักษาตัวที่โรงพยาบาลมากว่า 40 วัน

ต่อมา วันที่ 11 มิ.ย. น้องดานี่มีอาหารทรุดลงอย่างหนัก ความดันต่ำและอัตราการเต้นหัวใจสูง และยาที่ให้กินก็ไม่ตอบสนองต่ออาการและการรักษา และเหลือเพียงปล่อยให้ระบบการทำงานของร่างกายเป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งทางครอบครัวจึงขอให้แพทย์ยื้อชีวิตด้วยการฉีดยาและปั๊มหัวใจ แต่ไม่สำเร็จ ด.ญ.ชนิดา ได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 08.00 น. ของเช้าวันที่ 12 มิ.ย. ส่วนทางด้านนายมาร์เชล เลออง โบเรล ชาวสวิส ผู้เป็นพ่อ เมื่อรู้ว่าลูกเสียชีวิต ก็ถึงกับทรุดและน็อกไปเลย

สำหรับอีก 2 คน คือ ด.ญ.พาเมลา โบเรล หรือ น้องดีดี้ อายุ 11 ปี และ ด.ช.ลูก้า โบเรล หรือ น้องต้นกล้า อายุ 10 ปี ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว ขณะนี้กลับไปพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องพัก โดยที่ทั้ง 2 ก็ยังไม่ทราบว่า ด.ญ.ชนิดา เสียชีวิตแล้ว

โดยในวันที่ 13 มิ.ย. 61 เวลา 10.30 น. นายมาร์เซล เลออง โบเรล และ น.ส.รัตติกาล ประกายแก้ว พ่อแม่ของเด็กลูกครึ่ง 4 ราย ได้เดินทางเข้ามาที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อรับศพ ด.ญ.ชนิดา โบเรล หรือน้องดานี่ บรรยากาศที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งวินาทีที่เจ้าหน้าที่นำร่างของน้องดานี่ออกมา นายมาร์เซลได้ปล่อยโฮทันที

ด้าน น.ส.รัตติกาล ได้นำหมอนตุ๊กตาสีชมพูเตรียมมาไว้ใส่ในโลงศพของลูก ส่วนที่บริเวณแขนของนางสาวรัตติกาลนั้นได้มีการพันผ้ามา หลังจากที่เจ้าตัวอ้างว่าถูกพ่อของเด็กทำร้าย ขณะไปดูศพน้องดานี่ในห้องเย็น เจ้าตัวกล่าวว่าเส้นเอ็นอักเสบ แต่เอ็กซเรย์กระดูกไม่เป็นไร

ต่อมา นายมาร์เซล กล่าวด้วยความเจ็บปวดว่า วันนั้นเป็นน้องอเล็กซ์ วันนี้เป็นน้องดานี่ พรุ่งนี้จะเป็นใครอีก ตนรักลูกมาก แต่กลับไม่ได้เจอมาเป็นเวลา 4 ปี พอได้เจอกลับมาเจอลูกในสภาพแบบนี้

ตนเสียใจมาก เพราะที่ผ่านมาถูกกีดกันจากฝ่ายแม่มาตลอด พยายามติดต่อเพื่อทำหน้าที่ของพ่อ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ มาวันนี้ตนไม่ได้ต้องการจะทะเลาะ ไม่ต้องการจะแย่งร่างของลูก แต่อยากให้ลูกที่เหลืออีก 2 คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี จะไม่ให้ตนดูแลก็ได้ แต่อยากให้ไปอยู่ที่อื่น เพื่ออนาคตของลูก

ส่วนประเด็นที่ฝั่ง น.ส.รัตติกาลให้ข่าวว่า ตนพยายามข่มขู่และทำร้ายร่างกายนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยคิดว่าทำร้าย เพียงแค่ต้องการพูดคุยเท่านั้น

ด้าน น.ส.รัตติกาล กล่าวว่า วันนี้จะนำศพของน้องดานี่ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดจันทวงศาราม หรือวัดกลาง และจะมีพิธีรดน้ำศพในเวลา 17.00 น. โดยตัวเองยังคงเสียใจและทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูก พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาพยายามติดต่อนายมาร์เซลตลอด แต่อีกฝ่ายไม่ยอมคุยด้วย พร้อมยืนยันว่า ยินดีให้นายมาร์เซลดูแลลูกได้

โดยมีกำหนดการฌาปนกิจร่างของน้องดานี่ในวันเสาร์ที่ 16 มิ.ย.นี้ และมีการสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 3 วัน

ส่วนอาการของ ด.ญ.ดีมา พาเมล่า โบเรล หรือ น้องดีดี้ คนโต วันนี้จะเข้ารับการผ่าตัดที่ขาเพื่อเอาเหล็กที่ดามไว้ออก และจะคงต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วน ด.ช.ลูก้า ฟรองซัว โบเรล ขณะนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ไปเรียนหนังสือได้ แต่ก็ยังมีอาการปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง