คุณเคยถูกสายการบินปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่งเพราะที่นั่งเต็มทั้งๆ ที่คุณจองไว้แล้วหรือไม่ แล้วทำไมสายการบินมักชอบขายตั๋วเกิน หรือ Overbooking เรามาหาคำตอบกัน
ในแต่ละปีมีคนถูกปฏิเสะไม่ให้ขึ้นเครื่องเนื่องจาก Overbooking มากถึง 5 หมื่นรายต่อปี แล้วทำไมเหตุการณ์ Overbooking เกิดขึ้นทุกๆ ปี สาเหตุมาจากสายการบินต่างๆ เปิดขายหรือจองที่นั่งเกินกว่าที่เครื่องบินลำหนึ่งจะรับได้ ซึ่งการขายหรือจองตั๋วแบบ Overbooking นั้นสามารถสร้างกำไรให้สายการบินได้อย่างมากมาย
เพราะอะไรสายการบินจึงขายตั๋วแบบ Overbooking ?
เหตุผลที่สายการบินเปิดให้จองหรือขายตั๋วแบบ Overbooking นั้น เป็นเพราะสายการบินรู้ว่าจะมีผู้โดยสารที่จองไว้แล้วไม่มาตามเที่ยวบินที่จอง หรือตกเครื่องเพราะมาสาย ทางสายการบินจึงขายตั๋วโดยสารมากกว่าจำนวนที่นั่งจริง โดยทางสายการบินจะใช้สถิติในการกำหนดว่าจะขายตั๋วทั้งหมดกี่ใบ ทั้งนี้สายการต้องคำนวณปริมาณตั๋วที่จะขายให้อยู่ในระดับที่พอดี เพราะถ้าขายตั๋วน้อยไป ก็จะสูญเสียรายได้จากที่นั่งที่ว่างลง แต่ถ้าขายตั๋วมากเกินไปสายการบินก็จะต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้โดยสารที่ตกเครื่องเพราะ Overbooking ไม่ว่าจะป็นตั๋วฟรีสำหรับเที่ยวบินถัดไป, เงินค่าเสียหาย หรือค่าโรงแรม
แล้วสายการบินคำนวณการขายตั๋วอย่างไร
การคำนวณการขายตั๋วเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน แต่เราจะยกตัวอย่างที่ง่ายต่อการเข้าใจคือ
- สายการบินจะทำการเก็บข้อมูลในทุกปีมารวมกัน ว่าเที่ยวบินแต่ละเที่ยวมีผู้โดยสารที่มาขึ้นเครื่องและไม่มากี่คน เช่น สายการบินรู้ว่าในเที่ยวบิน A มีจำนวนผู้โดยสารมาขึ้นเครื่องอยู่ที่ 90 % จาก 100 % จากนั้นก็จะเหมารวมผู้โดยสารทุกคนว่าเดินทางมาคนเดียว
- หากเครื่องบินลำดังกล่าวมีจำนวนที่นั่ง 180 ที่ และมีผู้โดยสารมาจองที่นั่งไว้เต็มทั้ง 180 ที่ ความเป็นไปได้ที่จะมีผู้โดยสารมาขึ้นเครื่องก็จะอยู่ที่ 162 ที่นั่ง (แม้ในสถานการณ์จริงอาจะมีจำนวนผู้โดยสารมากหรือน้อยกว่านี้)
- ต่อมาสมมติว่าตั๋วใบหนึ่งมีราคาอยู่ที่ 250 เหรียญ ถ้าสายการบินขายตัวตามจำนวนที่นั่งที่มี สายการบินจะได้เงิน 45,000 เหรียญ แต่ถ้าสายการบินขายตั๋วเกินมา 15 ใบ และมีผู้โดยสารที่ไม่มาอย่างน้อย 15 คน สายการบินก็จะได้เงิน 48,750 เหรียญ แต่ถ้ามีผู้โดยสารมาขึ้นเครื่องเต็มจำนวนและมีผู้โดยสารอย่างน้อย 15 คนที่ไม่ได้ขึ้นเครื่อง สายการบินก็จะมีรายได้หลังหักค่าชดเชยแล้วจำนวน 36,750 เหรียญ
ทางสายการบินจึงใช้การแจกแจงแบบทวินามมาเป็นตัวกำหนดปริมาณการขายตั๋ว ยกตัวอย่างคือ ความน่าจะเป็นที่จะมีผู้โดยสารมาขึ้นเครื่องจำนวน 195 คนนั้นมีความเป็นไปได้อยู่ที่ 0.00000019 % และความน่าจะเป็นที่จะมีผู้โดยสารมาขึ้นเครื่อง 184 คนอยู่ที่ 1.1 % สายการบินจะทำการคูณความน่าจะเป็นเหล่านี้ด้วยจำนวนรายได้ในแต่ละกรณี จากนั้นก็รวมผลลัพธ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน และนำรายได้จากการขายตั๋ว 195 ใบ ไปลบกับผลรวมที่ได้ สายการบินก็จะได้รายได้ที่คาดว่าจะได้จากการขายตั๋ว 195 ใบ
เมื่อสายการบินทำการคำนวณลักษณะดังกล่าวซ้ำๆ โดยใช้จำนวนตั๋วที่ขายเกินต่างๆ กัน ก็จะสามารถหาจำนวนตั๋วที่มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดรายได้สูงสุดได้ สมมติว่าสายการบินดังกล่าวมีตั๋วทั้งหมด 198 ใบ สายการบินก็จะมีรายได้จากการขายตั๋วอยู่ที่ 48,774 เหรียญ ซึ่งมากกว่าการไม่ขายตั๋วเกินถึง 4,000 เหรียญ และเมื่อนำรายได้ต่อเที่ยวมาคูณเข้ากับเที่ยวบินนับล้านเที่ยวต่อหนึ่งสายการบินใน 1 ปี รายได้จากการขายตั๋วแบบ Overbooking นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
แน่นอนว่ามีหลายคนที่มองว่า การขายตั๋วแบบ Overbooking ของสายการบินต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณ ผู้ใช้บริการบางส่วนมองว่า หากสายการบินมั่นใจแบบ 100 % ว่าจะมีผู้โดยสารบางคนที่ไม่มาขึ้นเครื่อง การขายตั๋วแบบ Overbooking ก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร แต่หากสายการบินมั่นใจแค่ 95 % หรือแค่ 75 % ว่าจะมีผู้โดยสารบางส่วนที่ไม่มาขึ้นเครื่อง การขายตั๋วแบบ Overbooking ก็คือการทำธุรกิจที่เอาเปรียบลูกค้า