SHARE

คัดลอกแล้ว

 

ป.ป.ช. เปิดห้องคุยกับสื่อมวลชนวันนี้เกี่ยวกับกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร โดยระบุว่าไม่สามารถหาข้อมูลเจ้าของนาฬิกาจากบริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศได้เลย ส่วนข้อสงสัยว่าทำไมนาฬิกาบางเรือนจึงยังอยู่ที่ พล.อ.ประวิตร หลังจากที่เพื่อนเสียชีวิตไปแล้ว ป.ป.ช. ระบุว่าเป็นเพราะครอบครัวเพื่อน พล.อ.ประวิตร ไม่พร้อมรับคืนไปเอง

วันนี้ในช่วงเช้า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เปิดห้องพบสื่อมวลชนระดับบรรณาธิการ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนประเด็นการเปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของ ป.ป.ช. โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีการตรวจสอบการครอบครองนาฬิกาหรูทั้ง 22 เรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน

โดยนายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร หนึ่งในคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างมากในกรณีนี้ได้อธิบายว่า ในขั้นตอนการตรวจสอบทาง ป.ป.ช. ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังประเทศผู้ผลิตแล้ว แต่ติดปัญหาเนื่องจาก พ.ร.บ.ความร่วมมือทางอาญา พ.ศ. 2535 ของหลายประเทศในยุโรปไม่ถือว่าการจงใจไม่แสดงทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นความผิดทางอาญา เป็นเพียงความผิดทางจริยธรรม ดังนั้นหลายประเทศจึงไม่ให้ความร่วมมือในการส่งเอกสารใบรับรองนาฬิกามายังประเทศไทย

เมื่อเป็นเช่นนั้น ทาง ป.ป.ช. จึงได้ตรวจสอบวิธีใหม่ โดยการสอบถามไปยังตัวแทนจำหน่ายในประเทศ แต่ก็ได้คำตอบว่า นาฬิกาเหล่านั้นไม่ได้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ทาง ป.ป.ช. จึงตรวจสอบต่อไปยังกรมศุลกากร เนื่องจากคาดว่านาฬิกาจะถูกนำเข้ามาผ่านทางศุลกากร แต่ก็ปรากฎว่าไม่พบข้อมูลใดๆ อีก

ทาง ป.ป.ช. จึงใช้วิธีการสอบถามไปยังสถานทูต ให้ช่วยสอบถามบริษัทเอกชนผู้ผลิตนาฬิกาทั้ง 22 เรือนดังกล่าวให้ ซึ่งคำตอบที่ได้กลับมาจากบริษัทผู้ผลิตเหล่านั้นคือ “ไม่ได้เก็บข้อมูล” หรือไม่ก็ “ไม่ให้ข้อมูล” เมื่อเป็นเช่นนั้น ทาง ป.ป.ช. จึงหมดหนทางที่จะพิสูจน์ความเป็นเจ้าของนาฬิกาเหล่านั้นด้วยข้อมูลจากทางบริษัทผู้ผลิตนาฬิกา

อย่างไรก็ตาม ในบรรดา 4 ประเทศที่เป็นที่มาของนาฬิกาหรูทั้ง 22 เรือนนั้น มีหนึ่งประเทศที่ตอบรับว่าจะให้ความร่วมมือกับทาง ป.ป.ช. ผ่านทาง พ.ร.บ.ความร่วมมือทางอาญา แต่เสียงข้างมากของ ป.ป.ช. เห็นว่าหากใช้วิธีดังกล่าว การตรวจสอบก็ต้องยืดระยะเวลาไปอีก 6 เดือนถึงหนึ่งปี และก็คาดว่าจะได้คำตอบเหมือนเดิมอยู่ดีว่า การจงใจไม่แสดงทรัพย์สินไม่ถือเป็นความผิดทางอาญา จึงอาจทั้งเสียเวลาและไม่ได้คำตอบอยู่ดี ดังนั้นจึงเห็นว่าควรยุติการพิจารณาเรื่องนี้ไปเลยดีกว่า

ส่วนเสียงข้างน้อย เช่น น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ซึ่งเป็นนักบัญชีมาก่อน เห็นว่าควรต้องตรวจสอบต่อให้สิ้นสุด จนได้ข้อมูลครบถ้วนที่สุด แต่ในเมื่อเสียงข้างมากตัดสินใจยุติการสืบสวนแล้ว ตนเองก็เคารพการตัดสินใจ

สำหรับประเด็นที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า นาฬิกาหรูบางเรือน พล.อ.ประวิตร ยังคงสวมใส่อยู่หลังจากที่เพื่อนชื่อ ปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทาง ป.ป.ช. อธิบายว่า เป็นเพราะทางครอบครัวของนายปัฐวาทยังไม่พร้อมที่จะรับนาฬิกาคืน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงจัดงานศพและยังโศกเศร้าเสียใจอยู่

ในส่วนของพยานที่ทาง ป.ป.ช. ได้เชิญพูดคุยเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ปรากฎว่าพยานทุกคน ให้การ “เป็นคุณ” กับ พล.อ.ประวิตร ทั้งหมด ไม่สามารถหาพยานที่ให้การ “เป็นโทษ” กับ พล.อ.ประวิตร ได้เลยแม้แต่คนเดียว

และในกรณีที่มีผู้นำกรณีนี้ไปเปรียบเทียบกับกรณีการอ้างว่ายืมรถยนต์ของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม นั้น ทาง ป.ป.ช. อธิบายว่าสองกรณีนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจากในกรณีของนายสุพจน์นั้น มีพฤติการณ์ครอบครองรถยนต์ตั้งแต่แรก นั่นคือทั้งเลือกรุ่น เลือกสี และเลือกทะเบียนรถเอง แต่กรณีของ พล.อ.ประวิตร ไม่พบว่ามีพฤติกรรมเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช. ระบุว่าตอนนี้กำลังตรวจสอบเพิ่มเติม กับข้อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ ว่าการยืมนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร นั้น จะเข้าข่ายการรับของมูลค่าเกิน 3,000 บาทหรือไม่

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า