ประเด็นคือ- ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่อนุญาตให้บริษัทสร้างภาพยนตร์เรื่อง เดอะบีช ภาพยนตร์ชื่อดังจากฮอลลีวูด มาถ่ายทำบนอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เมื่อ 18 ปีก่อน กลับมามีความเคลื่อนไหวในการพิจารณาคดีที่สำคัญอีกครั้ง หลังจากได้มีการไกล่เกลี่ยประนีประนอมกัน 3 ครั้ง จนได้ข้อสรุปร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 เม.ย. 61) โดยการพิจารณาคดีดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสฤษพงศ์ เกี่ยวข้อง รองนายก อบจ.กระบี่ ว่า ที่ผ่านมา อบจ.กระบี่ และ อบต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ยื่นฟ้องผู้อนุญาตให้ “ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์” บริษัทสร้างภาพยนตร์เรื่อง เดอะบีช เพื่อเรียกค่าเสียหายจากการกระบวนการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม บนอ่าวมาหยา อ่าวที่สวยงามที่สุดบนเกาะพีพีเล ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ โดยฟ้องขอให้ชดเชยค่าเสียหายเป็นเงิน 100 ล้านบาท
เมื่อ 18 ปีที่ผ่านมา ในการพิจารณาคดีนี้ ศาลแพ่งแผนกคดีธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น ได้ทำการสืบพยาน ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้มีการไกล่เกลี่ย ตั้งนักวิชาการร่วมกันทั้งสามฝ่าย ประกอบด้วยศาล โจทก์ และจำเลย ลงพื้นที่อ่าวมาหยา รวบรวมรายละเอียดเพื่อเป็นแนวทางการฟื้นฟู โดยบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์มีความประสงค์ที่จะตั้งกองทุนฟื้นฟูอ่าวมาหยา ตามที่โจทก์ยื่นฟ้อง คาดว่าเดือน ก.ค.นี้ ศาลจะมีข้อสรุปออกมา
สำหรับคดีนี้ ศาลได้รับคำฟ้องเป็นครั้งแรกเมื่อปี 55 หลังจากที่มีความพยายามยื่นฟ้องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อปี 56 ผู้พิพากษาได้ใช้วิธีลงพื้นที่เดินเผชิญสืบหรือหาหลักฐานด้วยตัวเอง ซึ่งนักกฎหมายต่างมองว่านี้จะเป็นคดีตัวอย่าง เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่ศาลใช้วิธีหาหลักฐานด้วยตัวเอง โดยระหว่างการลงเผชิญสืบไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ
อ่าวมาหยา ได้ชื่อว่าอ่าวที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ด้วยหน้าผาที่โอบล้อม ในอดีตมีตะกอนทรายทับถมรวมกันกลายเป็นหาดทรายละเอียด แต่ภายหลังการถ่ายทำหนังเรื่องเดอะบีช ซึ่งมีการใช้แพขนานยนต์ไปเทียบ เพื่อขนย้ายเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ขึ้นฝั่ง เมื่อปี 42 พบว่าสันทรายเกิดรอยเว้า ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ
นอกจากนี้การปรับพื้นที่ปลูกต้นมะพร้าว และสร้างที่พักชั่วคราว ยังทำลายพืชประจำถิ่น ทำลายความสวยงามมาจนถึงปัจจุบัน