ภูมิใจไทย ชวน ปชช.ติดสติกเกอร์ ค้านผูกขาดสัมปทานกัญชา

พรรคภูมิใจไทย เรียกร้องให้รัฐบาลรีบดำเนินการปลดล็อกกัญชาให้เสรีจริงๆ ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์กัญชาได้จริง ปลูกกัญชาได้ครอบครัวละ 6 ต้น จะมีรายได้ต้นละ 70,000 บาท

วันที่ 4 มี.ค. 62 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค แถลง คัดค้าน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2562 ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 17 ก.พ. 2562 มาตรา 26/5  บัญญัติว่าผู้ขออนุญาตตามกฎกระทรวง ให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดว่าด้วยกัญชา 21 คน เป็นเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด ดำเนินการควบคุม ผูกขาดสัมปทานให้กลุ่มทุน สังเกตจากข้อ 7 ระบุว่า ผู้ขออนุญาตต้องจดทะเบียนภายใต้การดูแลของรัฐ และสถาบันการศึกษา เป็นการปิดกั้นประชาชนทั่วไป

ทั้งที่กัญชาเป็นผลประโยชน์มหาศาล แต่กลับไม่ตกในมือประชาชน  อีกทั้งเงื่อนไขการปลูก ต้องมีงานวิจัย และปลูกในโรงเรือนที่ต้องใช้ทุนจำนวนมาก การทำงานวิจัยเป็นเรื่องยากสำหรับประชาชน เพราะไม่ทราบวิธีวิจัยที่ชัดเจน  ส่วนข้อกำหนดผู้ตรวจ ที่ยังไม่ทราบเป็นบุคคลใด การกำหนดคุณสมบัติเหล่านี้  เป็นการล็อกสเปคให้กับกลุ่มทุน โดยประชาชนต้องรับภาระไม่ต่างจากเหล้าและบุหรี่

พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นการผลักประชาชนเป็นผู้ทำผิดกฎหมาย เรียกร้องให้รัฐบาลรีบดำเนินการปลดล็อกกัญชาให้เสรีจริงๆ ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์กัญชาได้จริง ปลูกกัญชาได้ครอบครัวละ 6 ต้น จะมีรายได้ต้นละ 70,000 บาท รัฐมีหน้าที่ทำวิจัยให้ประชาชน สนับสนุนให้ผู้ปลูกรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนได้จริง และรัฐจะต้องเป็นผู้รับซื้อเท่านั้น ไม่ใช่ปลูกเอง

ดังนั้น พรรคภูมิใจไทย ขอคัดค้านการผูกขาดสัมปทานกัญชา ขอให้ประชาชนที่มีแนวคิดตรงกันร่วมแสดงออกติดสติกเกอร์  คัดค้านนายทุนผูกขาดสัมปทานกัญชา ซึ่งพรรคจะแจกให้ประชาชนโดยเป็นส่วนหนึ่งงบประมาณในการหาเสียง ทั้งนี้หากได้เข้าทำงานในรัฐสภา จะแก้กฎหมายในมาตราที่ออกมาจำกัดสิทธิ์ของประชาชน

ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลูกต้นกัญชาในโรงเรือนที่มีการลงทุนสูง แสดงถึงการเตรียมการล่วงหน้ามาระยะเวลานาน ซึ่งทราบได้อย่างไรว่ากฎหมายจะผ่าน ขณะเดียวกัน ข้อกฎหมายที่ไม่เอื้อให้ประชาชนปลูกได้แบบถูกกฎหมาย แต่รัฐทำหน้าที่ปลูกแทนเสียเอง