ภูเก็ต-ขอนแก่น นำทัพมุ่งสู่การเป็น Smart City แล้ว!

กลุ่มขอนแก่นพัฒนาเมือง ส่งต่อโมเดล Smart City สู่ภูเก็ต ยกระดับขนส่งมวลชนในพื้นที่ หวังกระตุ้นการลงทุน และพัฒนาความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น เพื่อเดินหน้าเข้าสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ

จังหวัดขอนแก่น และภูเก็ต ถูกเลือกให้เป็นต้นแบบของโครงการเมืองอัจฉริยะ ในการพัฒนาความเป็นอยู่ด้านสาธารณูปโภคของคนในท้องถิ่น วันนี้ (9 มี.ค.) ที่งานรักเหมา Fest 2018: เปิดกล่อง ส่องเครื่องมือช่าง ตัวแทนทีมงานพัฒนาที่ทำงานในพื้นที่จริง ได้มาพูดคุย และอธิบายถึง วิสัยทัศน์ และเหตุผลของโครงการพัฒนาต่าง ๆ ที่ผ่านมา ว่ามีมาที่ไปเป็นอย่างไร

เมื่อพูดถึงคำว่า Smart City ผู้คนมักจะนึกถึงการใส่เทคโนโลยี ความทันสมัย ใส่อินเทอเน็ตลงไปในเมือง แต่ที่จริงแล้ว หลักการใหญ่ ๆ ของคำนี้คือการที่ผู้คนในพื้นที่ มีส่วนในการพัฒนาเมืองของตัวเอง

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ช.ทวี และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง (KKTT) กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของนโยบายการพัฒนาเมืองในปัจจุบันว่า เกิดจากการที่จังหวัดขอนแก่นเป็นเมืองศูนย์กลางความเจริญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการขยายตัวรวดเร็ว ทำให้เกิดการกระจายตัวของชุมชนไปสู่บริเวณโดยรอบ ปัญหาที่ตามมาคือ การใช้รถส่วนตัวมากขึ้น การใช้ขนส่งสาธารณะน้อยลง ส่งผลต่อปัญหาจราจร สิ่งแวดล้อม และด้านอื่น ๆ จึงต้องมีการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน นั่นก็คือ นโยบายการพัฒนาเมืองในปัจจุบัน

โดยเหตุผลที่เริ่มต้นจากการแก้ปัญหาขนส่งสาธารณะก่อน เพราะนี่คือโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะนำไปสู่การพัฒนาในบริเวณที่การคมนาคมไปถึง เมื่อมีการลงทุน มีความเจริญไปถึง ก็จะเริ่มมีองค์กร มีบริษัท ส่งเสริมเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงาน ผู้คนในท้องที่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลา และค่าเดินทางแพง ๆ ไปทำงานในเมือง แต่สามารถอยู่ในพื้นที่ และมีส่วนช่วยให้เมืองเติบโตไปพร้อมกัน โดยนอกจากโครงการรถสาธารณะและอื่น ๆ ที่เริ่มดำเนินการไปแล้ว ยังมีโครงการอื่น ๆ อีกกว่า 170 โครการที่จ่อรอการพิจารณาอยู่

นโยบายการพัฒนาดังกล่าวถูกนำไปสานต่อที่จังหวัดภูเก็ต นายมนต์ทวี หงส์หยก กรรมการบริหารบริษัทภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด (PKCD) เผยว่า ส่วนใหญ่หากนึกถึงจังหวัดภูเก็ต ผู้คนจะนึกถึงทะเล เกาะแก่ง และแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ แต่ที่จริงแล้วภูเก็ตก็ประสบปัญหาจราจรติดขัด และระบบขนส่งที่ไม่ได้มาตรฐานเช่นกัน นักท่องเที่ยถูกเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มผู้ให้บริการที่ผูกขาด บางครั้งต้องจ่ายเหมาแท็กซี่ราคาแพง ๆ เพราะไม่มีทางเลือกอื่น ทางบริษัทจึงมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งก็คือระบบขนส่งสาธารณะ

โครงการสมาร์ทบัสที่วิ่งผ่านพื้นที่บริเวณสนามบินจนถึงตัวเมือง จึงมีเป้าหมายเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกแก่คนในพื้นที่ และส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่นอกจากระบบขนส่ง กลุ่มภูเก็ตพัฒนาเมือง ยังพยายามมุ่งหน้ายกระดับความเป็นอยู่ด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน การพัฒนาปรับปรุงทางน้ำ ท่าเรือ จุดจอด พัฒนาพื้นที่รองรับและรูปลักษณ์เรือโดยสาร ฯลฯ

การที่จะสร้างเมืองอัจฉริยะได้ ต้องเริ่มจากการที่คนอัจฉริยะก่อน แนวคิดที่แท้จริงของ Smart City คือการยกระดับความรู้ของคนในพื้นที่ ให้สามารถพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์ที่สุด เรื่องของเทคโนโลยีไม่ใช่หัวใจหลักในการยกระดับความเป็นอยู่ของคน แต่เป็นคนต่างหากที่จะศึกษาและใช้เทคโนโลยีในการสร้างเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ของตัวเอง

“ที่ผ่านมาเราติดอยู่ในกับดักทางความคิด ไม่ใช่กับดักรายได้ปานกลาง เพราะเราเอาแต่รอคอยความหวัง และงบประมาณ ซึ่งไม่สามารถช่วยให้ความเป็นอยู่ของใครดีขึ้น หรือต่อให้ช่วยก็ช้ามาก ความสำเร็จของโครงการพัฒนาเมืองขอนแก่นและภูเก็ตในครั้งนี้ จะเป็นเครื่องยืนยันถึงพลังของคนในพื้นที่ เป็นนิมิตหมายอันดีของการจับมือกันเดินไปข้างหน้า โดยไม่มีการทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจากงานนิทรรศการ ‘รักเหมา Fest 2018: เปิดกล่อง ส่องเครื่องมือช่าง’ ช่วงเสวนาในหัวข้อ ‘ก้าวให้ไกล ไปต่อให้ทันอนาคตก่อสร้าง ในยุคเมืองฉลาด SMART CITY’