“มาครง” กับการปฏิรูปกฎหมายแรงงานใหม่ของฝรั่งเศส

• กฎหมายใหม่นั้นอนุญาตให้บริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน ตกลงกฎเกณฑ์กับบุคคลที่บริษัทได้เลือกมาเองโดยไม่ต้องผ่านสมาคม และอนุญาตให้บริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 20 คนตกลงกับพนักงานของบริษัทกันเอง มาตรการใหม่อีกอย่างหนึ่งคือการไม่คิดค่าปรับสำหรับบริษัทที่ถูกฟ้องร้องโดยพนักงานที่ถูกไล่ออก โดยพนักงานที่ถูกไล่ออกนั้นจะได้ค่าตอบแทนขึ้นอยู่กับความอาวุโสของงาน
• ณ ปัจจุบัน ฝรั่งเศสนั้นเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับที่ 2 ใน 19 ประเทศโซนยุโรป แต่อัตราว่างงาน 10% ของประเทศนั้นได้รั้งการเจริญเติบโตของประเทศอยู่นาน

เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสเลยทีเดียว เพราะเมื่อไม่นานมานี้เขาได้มีการปฏิรูปกฎหมายแรงงานของประเทศที่มีมาแต่ช้านาน ส่งผลให้สมาคมแรงงานต่างๆ มีอำนาจน้อยลงและธุรกิจขนาดย่อมมีโอกาสมากขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็ทำให้มีการจ้างและไล่พนักงานออกได้ง่ายกว่าเดิม โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มุ่งเน้นให้เศรษฐกิจของประเทศได้มีการเจริญเติบโต พร้อมเพิ่มอัตราการจ้างงานของประเทศซึ่งมีจำนวนผู้ว่างงานค่อนข้างสูง

การปฏิรูปกฎหมายแรงงานอันซับซ้อนของฝรั่งเศสเพิ่งได้มีการริเริ่มเป็นรูปเป็นร่างหลังจากที่ความนิยมของประธานาธิบดีวัยเพียง 39 ปีนี้ได้ปรับตัวลดลง แต่ก่อนหน้านี้ตัวมาครงเองนั้นได้มีการกล่าวไว้เมื่อคราวหาเสียงว่าจะทำให้กฎหมายแรงงานนั้นยืดหยุ่นมากขึ้น โดยด้านฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยได้กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจทำให้วิธีชีวิตและสิทธิพิเศษของคนทำงาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของฝรั่งเศสและเป็นที่น่าอิจฉาของคนทั่วโลกนั้นหายไป โดยฝ่ายต่อต้านยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการยกอำนาจให้เอกชนที่มีอิทธิพลมากเกินไป

“กฎหมายแรงงานเดิมของฝรั่งเศสไม่เน้นอัตราการจ้างงานที่สูง จึงทำให้นักลงทุนคิดว่าการลงทุนในประเทศฝรั่งเศสเป็นอะไรที่ยากมาก” นายกรัฐมนตรีเอดัวร์ ฟีลิป กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการปฏิรูปกฎหมาย ได้มีการต่อต้านจากหลายฝ่าย โดยวันที่ 12 กันยายนได้มีการประท้วงเกิดขึ้นโดยกลุ่ม CGT (General Confederation of Labour) อีกทั้งฝ่ายต่อต้าน ได้มีการประกาศเชิญชวนประชาชนมาร่วมชุมนุมในวันที่ 23 กันยายนที่จะถึงนี้ โดยกฎหมายใหม่นั้นอนุญาตให้บริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน ตกลงกฎเกณฑ์กับบุคคลที่บริษัทได้เลือกมาเองโดยไม่ต้องผ่านสมาคม และอนุญาตให้บริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 20 คนตกลงกับพนักงานของบริษัทกันเอง มาตรการใหม่อีกอย่างหนึ่งคือการไม่คิดค่าปรับสำหรับบริษัทที่ถูกฟ้องร้องโดยพนักงานที่ถูกไล่ออก โดยพนักงานที่ถูกไล่ออกนั้นจะได้ค่าตอบแทนขึ้นอยู่กับความอาวุโสของงาน

กฎหมายใหม่นี้ทำให้การไล่พนักงานออกจากบริษัทมีความง่ายดายมากขึ้น เนื่องจากผู้ว่าจ้างสามารถตกลงกับผู้จ้างได้โดยตรงหากบริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องปรับตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่ต้องการที่จะปฏิรูปกฎหมายแรงงานเท่านั้น แต่เปลี่ยนมุมมองทางด้านสังคมของทั้งประเทศ การปฏิรูปกฎหมายแรงงานครั้งนี้แน่นอนว่าส่งผลให้เกิดความแตกแยก โดยกฎหมายนี้ได้รับสิทธิพิเศษให้ผ่านโดยไม่ต้องมีการโต้เถียงกันยาวนานในรัฐสภา การปฏิรูปร่างจะมีการนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 20 กันยายนหลังจากได้รับการรับรองจากคณะมนตรีแห่งรัฐและจะมีการเริ่มใช้ภายในสิ้นปีนี้

“ทุกสิ่งที่เรากลัวกำลังจะกลายเป็นความจริง เพราะนี่หมายถึงจุดจบของสัญญาว่าจ้าแรงงาน” นาย ฟีลิป มาติเนซ ผู้นำกลุ่มคอมมิวนิสต์ CGT กล่าว ในขณะที่สมาคมแรงงานซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทขนาดเล็กและกลางนั้นได้มีการกล่าวชื่นชมกฎหมายฉบับใหม่นี้และกล่าวว่าการปฏิรูปแรงงานถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับสังคมและประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว โดยสมาคมว่าจ้างแรงงานเจ้าใหญ่อย่าง MEDEF นั้นได้มีความเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นก้าวใหม่ที่น่าสนใจซึ่งต้องมีการจับตาดูต่อไปว่าจะใช้ได้จริงแค่ไหน ทางด้านพรรคอนุรักษ์นิยมนั้นกล่าวว่ามาตรการใหม่นี้ช่วยให้บริษัททำงานได้ง่ายขึ้นก็จริง แต่พวกเขายังไม่มั่นใจว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะนำไปสู่การลงทุนและเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของฝรั่งเศสได้จริงหรือไม่

ณ ปัจจุบัน ฝรั่งเศสนั้นเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับที่ 2 ใน 19 ประเทศโซนยุโรป แต่อัตราว่างงาน 10% ของประเทศนั้นได้รั้งการเจริญเติบโตของประเทศในแถบนี้อยู่มานาน โดยประเทศอื่นๆ และนักลงทุนกำลังจับตาดูฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิดในการปฏิรูปกฎหมายใหม่ในครั้งนี้

“เราต้องมองเห็นความเป็นจริง ว่าเราเป็นประเทศเดียวในยุโรปที่มีอัตราการว่างงานสูงและไม่สามารถจัดการปัญหานี้ได้มากว่า 3 ทศวรรษแล้ว” มาครงกล่าว

ที่มา: AP