คุณภาพอากาศ 14 ม.ค. ยังไม่ดีขึ้น PM 2.5 คลุมเมือง-หน้ากากN95 เริ่มหายาก

คุณภาพอากาศในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเบาบางลงบ้าง แต่ยังคงมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน เตือนสวมหน้ากากแบบ N95 ป้องกัน 

สถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันที่ 14 ม.ค. พบจุดอันตรายที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5 ) เกินค่ามาตรฐาน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน คือที่เขตดินแดง เวลา 07.00 น. ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 116 (AQI) ขณะที่ ริมถนนกาญจนภิเษก เขตบางขุนเทียน ที่มีพบ PM2.5 เกินค่ามาตรฐานสูงสุดเมื่อวานนี้ วันนี้ PM 2.5 ลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงเกินค่ามาตรฐานอยู่ที่ 162 (AQI) และพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงในวันนี้ คือ ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 173 (AQI)

มีรายงานสาเหตุที่ PM 2.5 วันนี้ลดลงบ้าง เนื่องจากมีลมตะวันออกพัดความชื้นเข้ามา อากาศลอยตัวไล่ฝุ่นละอองขนาดเล็กได้บ้าง แต่ช่วงบ่ายจะมีแดดแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจร้านจำหน่ายหน้ากาก N95 ที่ใช้ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 หลายร้านสินค้าหมด โดยเฉพาะหน้ากากที่ใช้แล้วสามารถซักได้ เหลือเฉพาะหน้ากากที่ใช้ได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้วต้องเปลี่ยนชิ้นใหม่

ติดตามข้อมูลออนไลน์ http://aqicn.org/city/bangkok  กรมควบคุมมลพิษ http://aqmthai.com/aqi.php  กรุงเทพมหานคร http://bangkokairquality.com  แอพพลิเคชั่น Air4Thai

สำหรับสถานการณ์คุณภาพอากาศที่ไม่ค่อยดีนักของกรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่มมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐานมาตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 20 ธ.ค. 2561 บางวันที่มีฝนตกลงมาชะล้างก็ทำให้คุณภาพอากาศกลับมาดีขึ้นบ้าง แต่จนถึงขณะนี้สถานการณ์คุณภาพอากาศในช่วงหน้าหนาว ที่อากาศปิด ลมนิ่งเช่นนี้ยังคงต้องติดตามเป็นรายวัน

ข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ควรลดระยะเวลาในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ขณะอยู่กลางแจ้ง หากมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว ดังต่อไปนี้ โรคทางเดินหายใจ, โรคเยื่อบุตาอักเสบ, โรคผิวหนัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด

สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง

1. พักผ่อนอยู่ในบ้าน
2. เตรียมยาให้พร้อม
3. ใช้หน้ากากกันฝุ่น
4. รีบพบแพทย์ หากมีอาการ

สำหรับประชาชนทั่วไป ควรลดระยะเวลาออกกำลังกาย หรือทำงานหนักกลางแจ้ง หมั่นสังเกตอาการหากเกิดอาการแสบคอ แน่นหน้าอก หายใจติดขัด รีบพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ

(ภาพจาก การท่าเรือแห่งประเทศไทย)

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอากาศประจำวันนี้ว่า ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็น มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนในระยะนี้

กรุงเทพมหานคร มีเมฆบางส่วนกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คุณภาพอากาศ 13 ม.ค. ‘บางขุนเทียน-ดินแดง’ อ่วม PM 2.5 เกินมาตรฐานสูงสุด

กรมควบคุมมลพิษ เผย 13 มาตรการ ‘เร่งคุมฝุ่นเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้า-เตรียมทำฝนหลวง

อธิบดีกรมฝนหลวงฯ เผยพร้อมขึ้นบินทำฝนเทียมล้างฝุ่นกทม.ทันทีที่อากาศอำนวย

กรีนพีซ เผย กทม. ติดอันดับ 9 เมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก

ถอดบทเรียน 5 ประเทศกับวิธีจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ