SHARE

คัดลอกแล้ว

เปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดียูเครน / AFP

รัฐบาลยูเครน ออกคำสั่งไม่อนุญาตให้ชายชาวรัสเซีย อายุ 16-60 ปี เข้าประเทศ พร้อมประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ชายแดน 30 วัน หลังกรณีเรือกองทัพยูเครน 3 ลำ ถูกทหารรัสเซียโจมตีก่อนยึด และจับกุมทหารเรือยูเครน 24 นาย

วันนี้ (30 พ.ย. 61) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลยูเครนออกคำสั่งห้ามชายชาวรัสเซีย ที่มีอายุตั้งแต่ 16-60 ปี เดินทางเข้ามาในประเทศยูเครน ยกเว้นแต่มีเหตุจำเป็นด้านมนุษยธรรม เช่น ร่วมงานศพ ขณะเดียวกันรัฐสภายูเครนประกาศใช้กฎอัยการศึก ในพื้นที่ชายแดนเป็นเวลา 30 วัน โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 26 ธ.ค. 61

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีขึ้นหลังจากนายเปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดียูเครนได้ร่วมประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคง ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่า รัสเซียอาจส่งกำลังทหารรุกรานยูเครน หลังจากเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้ระดมยิงเรือและยึดเรือ 3 ลำของกองทัพยูเครน ที่แล่นอยู่ในทะเลดำ บริเวณใกล้สะพานเชื่อมภาคใต้ของรัสเซีย กับเมืองเคียร์ช สาธารณรัฐไครเมีย พื้นที่พิพาทของสองประเทศ พร้อมจับกุมทหารเรือยูเครน 24 นาย โดยให้เหตุผลว่ารุกล้ำน่านน้ำรัสเซีย

บนโลกออนไลน์มีการนำคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุการปะทะกัน ระหว่างเรือกองทัพยูเครนกับรัสเซียมาเผยแพร่ด้วย แสดงให้เห็นฝ่ายรัสเซียได้ประกาศเตือนด้วยท่าทีแข็งกร้าว ให้เรือกองทัพยูเครนทั้ง 3 ลำหยุด ก่อนสาดกระสุนใส่เรือลำหนึ่ง

เหตุที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลยูเครนออกมาประณามการกระทำของรัสเซีย ที่ยิงเรือของกองทัพเรือยูเครนว่าเป็นการกระทำที่ก้าวร้าว แต่ทางการรัสเซียก็ตอบโต้กลับว่า เรือทั้ง 3 ลำของยูเครนแล่นเข้ามาในน่านน้ำของรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยื่นคำขาดไม่หารือระดับทวิภาคีกับ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ 20 แห่ง (G20) ที่อาร์เจนตินาในสุดสัปดาห์นี้ หากรัสเซียยังไม่ปล่อยตัวทหารยูเครนทั้งหมด พร้อมคืนเรือ 3 ลำให้ยูเครน ในขณะที่ผู้นำยูเครนเรียกร้องให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ส่งกองกำลังมากดดันรัสเซีย

สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่รัสเซีย ยกกองทัพเข้ายึดครองสาธารณรัฐไครเมีย จากยูเครน เมื่อปี 2557

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า