ย้ำ! “กัญชา” ยังเป็นยาเสพติด จำกัดพื้นที่ปลูก-ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น

ป.ป.ส. ชี้การลักลอบปลูกกัญชา ยังเป็นความผิดตามกฎหมายยาเสพติด ครม.อนุญาตเฉพาะปลูกเพื่อศึกษาทางการแพทย์เท่านั้น 3 ปีข้างหน้าอาจให้คนทั่วไปปลูกได้แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการควบคุมของรัฐ

แม้กัญชาจะมีประโยชน์ทางการแพทย์ จนคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อ 15 พฤษภาคม เห็นชอบ ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด อนุญาตให้ปลูกพืชกัญชา เพื่อศึกษาวิจัยทางการแพทย์ได้ แต่สถานะของกัญชา ยังเป็นยาเสพติด และไม่ให้คนทั่วไปปลูกอย่างเสรี

วันนี้ (18 พ.ค. 61) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ยืนยันว่า ปัจจุบันพืชกัญชายังเป็นยาเสพติดประเภท 5 เช่นเดียวกับ กระท่อม ฝิ่น และเห็ดขี้ควาย ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติด พ.ศ.2522 แต่ ป.ป.ส.สนับสนุนการใช้พืชกัญชารักษาโรค และใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ แต่ไม่อนุญาตให้นำมาใช้เสรี หรือ การเสพเพื่อความบันเทิง เพราะกังวลว่า จะเกิดปัญหาและส่งผลกระทบกับเยาวชนในระยะยาว

สำหรับการอนุญาตให้ปลูกนั้น รัฐจะเป็นผู้ควบคุม อนุญาตให้โครงการหลวง และโรงงานยาสูบ จำกัดการปลูกในแปลงทดลอง เพื่อนำไปทำวิจัย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้อีก 3 ปี อาจพิจารณาว่า จะอนุญาตให้บุคคลทั่วไปขออนุญาตปลูกกัญชา ในเงื่อนไขของการปลูกเพื่อนำกัญชาไปใช้สนับสนุน หรือทำลองทางการแพทย์เท่านั้นโดยรัฐควบคุมพื้นที่ปลูกได้หรือไม่

ขณะที่ นายแพทย์โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ กล่าวว่า ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ให้ปลูกกัญชาเพื่อทดลองประโยชน์ทางการแพทย์ จะเป็นกฎหมายและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งภายหลังจากประกาศแล้วกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ภายใน 180 วัน โดยปลายเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ คณะกรรมการจะประชุม เพื่อกำหนดกรอบการทำงานในกฎหมายใหม่นี้ อีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ครม.เปิดทางให้ปลูก-สกัด และทำผลิตภัณฑ์จาก ‘กัญชา’ ได้
• รวบหนุ่มลักลอบปลูกกัญชา ออแกนิคในบ้านย่านลาดพร้าวขาย