รถกระบะชนท้ายรถรับ – ส่งนักเรียน บาดเจ็บ 13 ราย

ประเด็นคือ – รถกระบะพุ่งชนท้ายรถรับ – ส่งนักเรียน เป็นเหตุให้คนขับรถนักเรียนและนักเรียนบาดเจ็บรวม 13 ราย ด้านรอง ผวจ.พิจิตร ติดตามให้กำลังใจ พร้อมกำชับทุกฝ่ายช่วยเหลืออย่างเต็มที่

วันที่ 15 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทย์ พยาบาล รพ.บึงนาราง และ รพ.ส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลในพื้นที่ อ.บึงนาราง รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.บึงนาราง เร่งปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือนักเรียนซึ่งได้รับบาดเจ็บจากอุบัติรถกระบะชนกับรถรับ – ส่งนักเรียน โดยเหตุเกิดที่บริเวณ ถ.ทางหลวง 117 นครสวรรค์ – พิจิตร หลัก กม.40 ขาล่อง หมู่ที่ 6 ต.ทะนง อ.โพทะเล จ.พิจิตร

โดยเหตุเกิดหลังเลิกเรียน ขณะรถกระบะ อีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียน บย 8782 นครสวรรค์ ซึ่งเป็นรถรับ – ส่งนักเรียน รับนักเรียนจาก รร.หนองกรดพิทยาคม ต.หนองกรด อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เพื่อมาส่งเด็กซึ่งเป็นเด็กในพื้นที่ ต.ทะนง อ.โพทะเล เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นจุดกลับรถถูกรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน บม 9506 นครสวรรค์ ชนบริเวณด้านท้ายเสียหลักชนกับต้นไม้ขนาดใหญ่ บริเวณร่องเกาะกลางถนน เป็นเหตุให้คนขับรถรับ – ส่งนักเรียนและเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บรวม 13 ราย ประกอบด้วยคนขับรถรับ – ส่งนักเรียน เพศชาย 1 ราย นักเรียนชาย 6 ราย นักเรียนหญิง 6 ราย อาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่นำส่ง รพ.บึงนาราง 9 ราย และ รพ.โพทะเล 4 ราย

หลังปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ประกอบด้วย นายทองสุข หุ่นคล้าย อายุ 48 ปี ผู้ขับขี่รถรับ – ส่งนักเรียน, ด.ช.สุภกิตติ์ ศรีจันทร์กัด อายุ 12 ปี และ ด.ญ.อาภัสรา หุ่นคล้าย อายุ 12 ปี แพทย์ต้องส่งตัวเพื่อรักษาที่ รพ.พิจิตร

ขณะที่ นางณิทฐา แสวงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ รพ.บึงนาราง เพื่อติดตามการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ กำชับทุกฝ่ายให้ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งพูดคุยให้กำลังใจนักเรียนผู้ประสบเหตุ ผู้ปกครองรวมถึงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ซึ่งให้การช่วยเหลือนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ

ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่ารถรับ – ส่งนักเรียน ซึ่งขับขี่โดย นายทองสุข หุ่นคล้าย รับนักเรียนทั้งหมดจาก รร.หนองกรดพิทยาคม เพื่อส่งบ้านในพื้นที่ ต.ทะนง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุขณะที่รถนักเรียนกลับรถได้ถูกชนโดยรถกระบะโตโยต้า วีโก้ ไม่ทราบชื่อ นามสกุลผู้ขับ ชนเข้าบริเวณท้ายรถจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ ตำรวจจะทำการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป