รถบรรทุกน้ำตัดหน้ารถเมล์ที่ปทุมธานี ชนนักเรียนบาดเจ็บ 13 ราย

ที่ จ.ปทุมธานี รถบรรทุกน้ำตัดหน้ารถเมล์สาย 337 เป็นเหตุให้นักเรียนที่นั่งมาบนรถเมล์ได้รับบาดเจ็บ รวม 13 ราย

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 12 ก.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.พิเชษฐ ปฤกษา ตำรวจจราจร สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุจากประชาชนว่า มีรถเมล์ชนกับรถสิบล้อบรรทุกน้ำ มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณถนนปทุมธานี – ลาดหลุมแก้ว ใต้สะพานวงแหวนไทดอยซ์ มุ่งหน้านพวงศ์ หมู่ 2 ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุพบรถเมล์สาย 337 ปทุมธานี – นพวงศ์ หมายเลขทะเบียน 10-1086 ปทุมธานี สภาพไฟด้านซ้ายและกันชนยุบ กระจกหน้ารถแตกทั้งบาน ภายในรถ เก้าอี้โดยสารพังไป 2 ตัว มีผู้โดยสารภายในรถจำนวน 50 ราย เป็นนักเรียนของโรงเรียนปทุมวิไล และโรงเรียนคณะราษฎร์บำรุงปทุมธานี ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 13 ราย เป็นผู้ชาย 1 ราย และผู้หญิง 12 ราย โดยได้รับบาดเจ็บตามร่างกายจากแรงกระแทก

เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งโรงพยาบาลปทุมธานี ทราบชื่อคนขับรถเมล์คือ นายสาโรจน์ ทรัพย์ประวัติ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/12 หมู่ที่ 3 ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี บาดเจ็บเล็กน้อยที่ขาขวาจากแรงกระแทก ใกล้กันพบรถสิบล้อบรรทุกน้ำของบริษัท ยูนิค หมายเลขทะเบียน 83-4775 นนทบุรี สภาพรถไฟด้านขวายุบและแตก ประตูข้างคนขับเสียหาย กระจกหน้ารถร้าว ทราบชื่อคนขับคือ นาย มนัส สุทธิฟกษ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 2 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ไม่ได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบถาม นายสาโรจน์ ทรัพย์ประวัติ อายุ 59 ปี คนขับรถเมล์ กล่าวว่า ตนได้รับนักเรียนจากตัวเมืองปทุมธานีมุ่งหน้าไปลาดหลุมแก้วขณะมาถึงที่เกิดเหตุตอนนั้นฝนตก จู่ๆก็มีรถบรรทุกน้ำของบริษัทยูนิคที่กำลังทำงานก่อสร้างพุ่งออกมาทำให้ตนเองเบรกไม่ทันเลยชนเข้าไปทำให้นักเรียนได้รับบาดเจ็บ

ด้าน ร.ต.อ.พิเชษฐ ปฤกษา ตำรวจจราจร สภ.เมืองปทุมธานี หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุจึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและได้ให้เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิปอเต๊กตึ้ง นำนักเรียนที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลปทุมธานี พร้อมนำตัวคนขับรถเมล์กับคนขับรถสิบล้อบรรทุกน้ำของบริษัทยูนิคไปสอบถามสาเหตุการชนต่อที่ สภ.เมืองปทุมธานี

อ่านข่าวอื่นได้ที่

เว็บไซต์: workpointnews.com

เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว

ยูทูบ: workpoint news

ทวิตเตอร์: workpoint news

อินสตาแกรม: workpointnews