รมช.คมนาคม ตรวจขนส่งอาเขต เข้มงวดความพร้อม พนง.ขับรถโดยสาร

ประเด็นคือ – รมช.คมนาคม ตรวจขนส่งอาเขต ย้ำคุมเข้มตรวจแอลกอฮอล์-สารเสพติด พนง.ขับรถเพื่อความปลอดภัย ด้านขนส่งเชียงใหม่ เพิ่มรถเสริมอีก 50% มั่นใจไม่มีผู้โดยสารตกค้างช่วงปีใหม่ 

วันที่ 23 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะเดินทางมาตรวจความพร้อมในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่สถานีขนส่งเชียงใหม่อาเขตแห่งที่ 3 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ให้การต้อนรับ

โดย รมช.คมนาคม ได้เยี่ยมชมสถานีขนส่งอาเขต พร้อมจุดตรวจบูรณาการของ สนง.ขนส่ง และ ปปส.ภาค 5 ที่มาตั้งโต๊ะตรวจวัดแอลกอฮอล์และปัสสาวะพนักงานขับรถโดยสาร เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนและผู้โดยสารที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นอกจากนี้ ดร.ไพรินทร์ ยังได้ตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถโดยสาร ทั้งระบบความปลอดภัยว่ามีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งหรือไม่ ขณะเดียวกันก็เดินทักทายประชาชนที่มารอขึ้นรถโดยสารด้วย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นอกจากสั่งการให้สถานีขนส่งแต่ละแห่งเตรียมความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางในช่วงสิ้นปีนี้ ยังกำชับให้เข้มงวดกวดขันเรื่องการตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถ ทั้งการตรวจแอลกอฮอล์และปัสสาวะหาสารเสพติด เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ขณะเดียวกันก็ต้องตรวจสอบสภาพรถโดยสารให้พร้อมใช้งานด้วย สำหรับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่นี้ ควรจองตัวโดยสารให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง และเตรียมความพร้อมเดินทางมาที่สถานีขนส่งแต่เนิ่นๆ

ด้านนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางมากที่สุดตั้งแต่วันที่ 28-30 ธ.ค. 2560 และวันที่ 2-3 ม.ค. 2561 ขนส่งจึงได้สั่งการให้ผู้โดยสารเพิ่มรถสำรองอีกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 โดยเฉพาะในเส้นทางสายเหนือ ซึ่งปกติมีเที่ยวรถให้บริการวันละ 100 เที่ยว เบื้องต้นผู้ประกอบการได้เพิ่มจำนวนเที่ยวรถรอบรับอีกเป็นวันละ 150 เที่ยว ในช่วงดังกล่าว ส่วนเส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพมหานคร ปกติมีรถให้บริการวันละ 60 เที่ยว ก็ได้มีการเพิ่มจำนวนเที่ยวรถรองรับอีกวันละ 30-40 เที่ยว

เบื้องต้นคาดว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ จะมีผู้โดยสารหมุนเวียนผ่านสถานีขนส่งอาเขตทั้งเก่าและใหม่ และสถานีขนส่งช้างเผือกไม่ต่ำกว่าวันละ 50,000 คน ขณะที่การเพิ่มรถโดยสารในเส้นทางต่างๆ มั่นใจว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้างอย่างแน่นอน