รวบพรานลอบเข้าป่า พร้อมภรรยาชำแหละเนื้อกระทิง กลางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สารภาพชำแหละมาขาย และไว้กินเอง อ้างกระทิงตายอยู่ก่อนแล้ว
วันที่ 3 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.พงศ์พันษ์ พลวงษ์ศรี ผกก.สภ.ประจันตคาม พ.ต.ท.วิฑูรย์ วงษ์ใหญ่ สว.สส. ร.ต.อ.พชรพล รอดไสว รอง.สว.สส. ร.ต.ท.เสมา เพิ่มพูล รอง.สว.สส. พร้อมกำลังชุดสืบสวน ร.อ.สงกรานต์ จันทรรัตน์มณี พร้อมกำลังทหาร พัน.สห.12 นายวุฑฒิชัย ปิ่นแก้ว พนักงานพิทักษ์ป่า ร่วมกันจับกุมตัว นายอาคม ดียิ่ง อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่จ.71/2561 ลงวันที่ 17 เม.ย. 2561 ฐานความผิดนำสัตว์ออกไป หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ และเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ หรือหาผลประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และมีซากสัตว์ป่าสงวน หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2560 เจ้าหน้าที่ได้พบซากกระทิงขนาดใหญ่ ถูกชำแหละอยู่บนเขาน้อย ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามสืบจนทราบว่า มีชาวบ้านได้ขึ้นมาชำแหละเนื้อไปจำหน่ายภายในหมู่บ้านและทราบว่าคือ นายอาคม ดียิ่ง อายุ 53 ปี และได้ออกหมายจับ ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้พบตัวผู้กระทำผิดจึงแสดงหมายศาลและแจ้งข้อหาให้ทราบก่อนนำตัวสอบปากคำเพิ่มเติม
โดย ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนได้ขึ้นไปบนเขา และได้พบกับกระทิงที่ตายแล้ว และเริ่มมีกลิ่นเหม็นแล้ว ตนจึงได้ร่วมกับภรรยาชำแหละเนื้อกระทิงบริเวณสะโพกทั้ง 2 ข้าง และเอากลับลงมายังบ้านพัก คนละประมาณ 20 กิโลกรัม รวมวันละ 40 กิโลกรัม โดยตนกับภรรยาได้ขึ้นไปชำแหละเนื้อกระทิงตัวเดียวกันนี้ 2 วัน รวมแล้วประมาณ 80 กิโลกรัม และคาดว่ากระทิงตัวนี้จะมีน้ำหนักประมาณ 600-700 กิโลกรัม ยืนยันว่าตนเองได้นำเนื้อมาเพียงเท่านี้จริง
ด้าน นางโนรี มหาเมฆ อายุ 56 ปี ภรรยาของ นายอาคม ยอมรับว่า ตนกับสามีได้ขึ้นไปบนเขาเพื่อไปเก็บตะใคร่หิน ที่ไว้จัดสวนหย่อมนำลงมาเพื่อจำหน่าย แล้วจึงไปพบกระทิงตายอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว และตนได้นำเนื้อกระทิงลงมาตากแดดกินเอง อีกส่วนก็นำมาจำหน่ายให้ชาวบ้าน ในราคากิโลกรัมละ 120 บาท โดยตนและสามีไม่รู้มาก่อนเลยว่าถูกออกหมายจับ