รวบ รปภ.รพ.หนองแคไม่ช่วยผู้ป่วยหัวฟาดพื้นแถมฉกกระเป๋าเงินหนี

กรณีผู้ป่วยโรคหัวใจเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในสระบุรี ตำรวจจับอดีตอดีตพนักงานรักษาความปลอดภัย หลังพบว่านอกจากไม่ช่วยเหลือยังขโมยเงินผุ้ป่วยแล้วปล่อยทิ้งไว้ จนเสียชีวิต ล่าสุดผู้ก่อเหตุถูกจับกุมแล้ว

วันที่ 6 ก.พ.2562 ตำรวจภูธรหนองแค จ.สระบุรี เชิญตัวลูกสาวผู้ป่วยโรคหัวใจที่เสียชีวิตมาให้ปากคำอีกครั้ง เพื่อรวบรวมหลักฐาน ขอหมายจับ นายพรรษวุฒิ ขอเยือกกลาง อายุ 25 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยโรงพยาบาลหนองแค ลูกสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันเกิดเหตุพ่อออกจากบ้านพักไปขับรถแท็กซี่ตามปกติ แต่มีอาการแน่นหน้าอกจากโรคหัวใจ จึงรีบขับรถเข้าไปที่โรงพยาบาลขณะลงรถก็ล้มศีรษะฟาดพื้น จนช่วงเช้าจึงมีคนมาพบและพบว่ากระเป๋าเงินของพ่อหายไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดปรากฏภาพพนักงานรักษาความปลอดภัยโรงพยาบาลเดินวนอยู่รอบรถ

ขณะที่โรงพยาบาลหนองแค แถลงข่าวชี้แจงว่า อดีต รปภ.ผู้ก่อเหตุเป็น รปภ. ทดลองงานถือว่าไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของโรงพยาบาล และก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยผ่านการเกณฑ์ทหารมาแล้ว ซึ่งจะมีการตรวจร่างกาย หากพบว่ามีการเสพยาเสพติดก็จะถูกนำไปบำบัด จึงไม่แน่ชัดว่าผู้ต้องหายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้พิจารณาความผิดผู้ต้องหา 2 เรื่องคือ ไม่ให้การช่วยเหลือผู้ป่วย ตามหลักกฎหมายพลเมือง และ พฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีมูลเชื่อได้ว่ากระทำจริง จึงดำเนินการไล่ออกทันที

ส่วนการเยียวยาต้องดูว่าเป็นไปตามกฎหมายประกันสุขภาพมาตราที่ 41 หรือไม่ ซึ่งในกฎหมายระบุว่าผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลแล้ว จึงจะมีส่วนรับผิดชอบหรือเยียวยา โดยในส่วนนี้จะมีการเสนอเรื่องพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบต่อไป สำหรับนางสาวอุรชา ช้างสี ลูกสาวคนโตของลุงแท็กซี่ผู้เสียชีวิต ยังคงติดใจเรื่องของเงินที่วันนี้โรงพยาบาลใส่ซองมาให้ ก่อนชี้แจงว่าไม่ใช่เงินเยียวยา แต่เป็นเงินช่วยทำบุญงานศพ และกรณีที่ รปภ. ไม่ให้การช่วยเหลือ เพราะคิดว่าไม่ใช่หน้าที่

ล่าสุดตำรวจ สภ.หนองแค จ.สระบุรี นำกำลังจับกุมนายพรรษวุฒิ อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัยโรงพยาบาลหนองแคได้แล้ว ตรวจค้นพบยาบ้าในตัวจำนวน 1 เม็ด ก่อนนำมาสอบสวนที่โรงพักระหว่างนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนดังกล่าว

นายพรรษวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า ได้ขโมยเงินสดของผู้ตายไป 900 บาท นำไปซื้อยาบ้ามาเสพ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป