ประเด็นคือ – สาวโพสต์คลิปนาทีสุดระทึก เรือนำเที่ยวล่มกลางทะเลพัทยา น้ำทะลักเข้าเรือ หลังกัปตันจอดให้ตกปลา ทั้งที่บอกคลื่นแรง
จากกรณีที่เรือลิฟวิ่งไรท์ ที่นำนักท่องเที่ยวออกจากท่าเรือโอเชียนมาริน่า แล้วเกิดเหตุจมลงบริเวณเกาะครามน้อย ซึ่งนักท่องเที่ยวจำนวน 7 คน ที่โดยสารไปไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กหญิงชื่อ “เพื่อนเต็ม กดติดตามกันนร้า” ได้โพสต์คลิปพร้อมระบุว่า เรือดับกลางทะเล แต่เค้าไม่แจ้งเรา บอกแค่ว่าตกปลาแต่ตรงนั้นคลื่นมันแรงเลยบอกเค้าว่า ไปจอดที่อื่นเถอะค่ะ โยกแรงไป พอคนขับไปสตาร์ทเรือมันไม่ติดแล้ว เค้าเลยบอกว่าเครื่องมันพังไปแล้ว ก็รอไปเรื่อยๆ น้ำเริ่มเข้าคลื่นก็แรง โยกจนน้ำเข้าเรือเกือบครึ่งลำ ถ้าไม่มีเรือนักท่องเที่ยวผ่านมา คงลอยคอที่ทะเลไปแล้ว และไปติดเกาะครามประมาณ ชม. นิดๆ ถึงมีเรือมารับ
ล่าสุด ได้รับการเปิดเผยจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าเรือลิฟวิ่งไรท์ ลำดังกล่าวได้ถูกลากกลับมาถึง ท่าเรือโอเชียนมาริน่า ต่อจากนั้นได้ควบคุมกัปตันเรือ นายกลั้ว อบนวล ไปสอบสวน
โดยนายกลั้วให้การเป็นผู้ขับเรือ มีใบนายท้าย ที่ออกโดยกรมเจ้าท่าฯ แต่ไม่สามารถนำมาแสดงได้ เนื่องจากเอกสารทั้งหมดติดอยู่ในตัวเรือ จึงได้เชิญ นายกลั้วมาพบ ร.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ มอมุงคุณ พงส.สภ.นาจอมเทียน เพื่อบันทึกถ้อยคำ
จากการสอบสวน ได้ความว่า นายกลั้วซึ่งเป็นกัปตันเรือ ย่อมมีความรู้ความสามารถในการเดินเรือและสภาพภูมิอากาศก่อนออกเดินเรือ แต่กลับไม่แนะนำหรือห้ามปรามนักท่องเที่ยวไม่ให้เดินทางไปทำกิจกรรมตกปลาในบริเวณดังกล่าวซึ่งมีคลื่นลมแรง จนเกิดเหตุดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้กับนายกลั้ว “กระทำโดยประมาทให้ผู้อื่นเป็นอันตรายทางกายหรือจิตใจ” ตาม ป.อาญา ม.390 ซึ่งนายกลั้วรับสารภาพ จึงดำเนินการเปรียบเทียบปรับใช้ชั้นพนักงานสอบสวนเป็นเงิน 1,000 บาท ก่อนปล่อยตัวกลับไป