ราชบุรีวางแผนเตรียมกู้ระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 2 จมใต้น้ำแม่กลองอีก 7 ลูก

รองผู้ว่าราชบุรีพร้อมชุด EOD ทั้ง 3 เหล่าทัพ ผู้แทน รฟท. ล่องเรือสำรวจพื้นที่เตรียมวางแผนกำหนดจุดทำลายระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังมีการสำรวจทั้งทางบกและทางน้ำ พบระเบิดจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด 7 ลูก

วันที่ (28 ก.พ. 62) เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายพงษ์พันธ์ แสงสุวรรณ ปลัดจังหวัด พร้อมด้วยผู้แทนจากกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ชุด EOD ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ผู้แทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมเตรียมแผนการเก็บกู้เคลื่อนย้ายและทำลายวัตถุระเบิดที่จมอยู่ใต้น้ำจำนวน 7 ลูก ใต้น้ำที่สะพานจุฬาลงกรณ์ แม่น้ำแม่กลอง และสะพานธนะรัชต์ เขตเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่เรือนรับรองสโมสรนายทหารสัญญาบัตร กรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี โดยหลังประชุมเสร็จทางคณะได้ลงเรือไปสำรวจห่างจากจุดสะพานที่มีระเบิดจมอยู่ รัศมีห่างออกไปประมาณ 200 เมตร เพื่อเตรียมกำหนดจุดที่ปลอดภัย ในการลากลูกระเบิดไปดำเนินการขุดหลุมทำลายใต้น้ำ

นายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า ได้รับคำแนะนำผู้ช่วยทูตทหารอังกฤษประจำประเทศไทยที่มีความเชี่ยวชาญ ได้ร่วมประชุมรวมทั้งคณะเก็บกู้ระเบิดที่มีความชำนาญปัจจุบันได้ปฏิบัติงานจริงอยู่ที่ลอนดอนมีการกู้ระเบิดอยู่ทุกวันในการกู้ระเบิดของเยอรมัน แต่ส่วนที่กำลังจะเก็บกู้ที่ราชบุรีนี้เป็นระเบิดของอังกฤษมีอนุภาพค่อนข้างรุนแรง ชนวนระเบิดเปราะง่ายเป็นระเบิดชนิดที่ปะทุแตกและทุกลูกยังมีความรุนแรงอยู่

ที่ประชุมมีแนวทาง 4 วิธีให้เลือก คือ วิธีแรกให้ทำลายใต้น้ำซึ่งไม่แนะนำเพราะว่าระเบิดลูกหนึ่งมีรัศมี 800-1 กิโลเมตรสองข้างทาง จะทำลายอาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างต่างๆ วิธีการที่ 2 คือ ลากออกไปกลางทะเล แล้วไปทำลายในทางปฏิบัติค่อนข้างยาก ซึ่งอังกฤษได้ทำอยู่แล้วลากไปตามแม่น้ำแล้วทำลาย แต่ของราชบุรีต้องผ่านหลายจังหวัด ทั้งแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์รวมไปถึงฟาร์มหอย สัตว์ต่างๆบริเวณอ่าว ก.ไก่ วิธีที่ 3 คือ ทำให้น้ำแห้งแล้วลงไปตัดชนวนลูกระเบิด จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก วิธีที่ 4 ที่ทางผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำให้ใช้คือ ลากไปจุดที่ปลอดภัยประมาณ 200 เมตร แล้วขุดหลุมลงไปประมาณ 6-10 เมตร เหมือนกับพบระเบิดสมัยสงครามโลกที่ใต้สะพานเหล็กวังก์พง จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่เป็นชนวนระเบิดคนละแบบ ระเบิดเจอที่วังก์พงเป็นระเบิดที่จะระเบิดยากกว่า แต่ระเบิดที่ราชบุรีจะกระทบง่ายกว่าเป็นระเบิดที่ตั้งเวลาไว้เพื่อจะทำลาย จะค่อนข้างเร็วต่อการกระทบเปลี่ยนแปลง จึงได้ข้อสรุปตกลงว่าราชบุรีจะใช้วิธีที่ 4 น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่ชุด EOD ทหารเรือ ทหารอากาศ ทหารบกสามารถทำได้โดยได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจากอังกฤษคอยช่วยเหลือ

ส่วนรัศมี 200 เมตรที่จะไปขุดหลุมนั้นน่าจะอยู่บริเวณประมาณวัดเกาะนัมทาปทวลัญชาราม ลักษณะเป็นเวิ้งน้ำไม่ค่อยมีบ้านเรือนประชาชน โดยวันนี้จะสำรวจทางบกร่วมด้วยว่ามีบ้านเรือน โรงเรียน มากน้อยแค่ไหน ถ้าเหมาะสมก็ดำเนินการทำบังเกอร์เพราะแรงระเบิดจะทำลายกระจกของตัวอาคาร ซึ่งคงจะทำบังเกอร์หลังจากที่สำรวจเสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นฝ่ายEOD ทหารเรือจะลงสำรวจประมาณมีนาคม ซึ่งจะพยายามหลีกเลี่ยงพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ช่วงนี้ต้องปล่อยน้ำเพื่อรักษาระดับในแม่น้ำแม่กลองราชบุรี เพื่อเตรียมประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่จะไปตักที่วัดดาวดึงษ์ จำเป็นต้องรักษาระดับน้ำให้สะอาด น้ำทะเลจะไม่ทะลักเข้ามาจะมีองค์ประกอบเหล่านี้ร่วมด้วย โดยอาจจะต้องสำรวจลูกระเบิดเพิ่มต่ออีกในพื้นที่ติดกันในรัศมีประมาณ 150-200 เมตร ว่าจะมีระเบิดเพิ่มอีกกี่ลูกหรือไม่ หลังจากที่เคยสำรวจไว้แค่ 100 เมตร เพื่อความปลอดภัยของทำงาน

ส่วนแผนอพยพประชาชนนั้น หลังจากที่ได้สำรวจว่ามีระเบิดเพิ่มขึ้นหรือไม่แล้ว ก็จะมาคำนวณว่าจะต้องดำเนินการขุดหลุมฝังทำลายระเบิดกี่หลุม เบื้องต้นที่จะทำการขุดก่อนจำนวน 2 หลุม ถ้า 2 หลุมแรกประสบผลสำเร็จ ก็จะเคลื่อนไปแล้วจะลำเลียงไปอีก หรือทำลายทีละลูก แต่ถ้าสำรวจพบมีระเบิดเพิ่มอีกหลายลูกก็จะต้องเสียเวลาเพิ่มในการดำเนินการ จะใช้ความพยายามไม่ให้กระทบกระเทือนพระราชพิธีสำคัญในช่วงนั้น มีการวางแผนจะสำรวจก่อนให้ทันพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ แต่จะต้องอยู่ที่คณะกรรมการ ชุด EOD ทั้ง 3 เหล่าทัพมีความพร้อม อีกทั้งจะปรับแผนส่วนที่เกี่ยวข้องอยู่ตลอด เช่น สำรวจบ้านเรือนชาวบ้าน ถ้าบ้านไหนเหมาะสมก็จะขออนุญาตนำรถแบ็กโฮเข้าดำเนินการนำรถไปขุดหลุมลึกลงไป 10 เมตร ถ้าเอาระเบิดไปหย่อนแล้ว หลังจากลูกแรกระเบิดเสร็จแล้วจะประเมินผลก่อนดำเนินการลูกต่อไปและปรับเปลี่ยนแผนอยู่เรื่อยๆตามข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (1 มี.ค. 62) จะได้จัดประชุมอีกรอบโดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ผู้แทน US Navy Specialist เจ้าหน้าที่ JASMAG THAI และอีกหลายหน่วยงานจะมาร่วมประชุมเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด