ร้องคดีไม่คืบ ! ครอบครัวเหยื่อรถเมล์ 115 ทับร่าง เข้าพบ ตร. ยันลูกชายขับรถดี

ครอบครัวเหมนิหมัด เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยืนยัน ผู้ตายไม่เคยมีพฤติกรรมขับรถหวาดเสียว เผยตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อนหนัก เพราะขาดเสาหลักครอบครัวขณะที่กระเป๋ารถเมล์ เบอร์ 4 ยืนยันไม่ได้ขับแข่งแซงกันมา อ้างตอนเกิดเหตุรถจอดอยู่

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก เจ้าพ่อตัวน้อย เผยแพร่คลิปวีดีโอ พร้อมข้อความเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง ที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน กล้องหน้ารถบันทึกภาพเหตุการณ์ รถจักรยานยนต์ล้มอยู่ใต้ท้องรถเมล์ ถูกล้อหลังทับ ซึ่งตอนนั้นยังมีชีวิตอยู่ แต่สุดท้ายเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะเดียวกันจะเห็นได้จากภาพว่า มีรถเมล์สาย 115 จำนวน 2 คัน คือ เบอร์ 4 และเบอร์ 10 จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตตั้งข้อสงสัยว่า รถเมล์ขับแข่งกัน หรือเบียดกันเพื่อจะเข้าป้ายรถแย่งผู้โดยสารกันหรือไม่

โดยอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา บริเวณถนนพระราม 4 ก่อนถึงปากซอยภูมิจิตร จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับป้ายรถประจำทาง ชายคนที่ขี่รถจักรยานยนต์ที่ปรากฏอยู่ในคลิป คือ นายจตุพล เหมนิหมัด อายุ 31 ปี

กระทั่งล่าสุด นายจุมพล เหมนิหมัด ซึ่งเป็นพ่อผู้เสียชีวิต พร้อมญาติ เข้าพบ ร.ต.อ.ดนุรุจ บุญมูสิก พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยตายจุมพล ยืนยันว่า ลูกชายขับรถดีไม่หวาดเสียว เพราะทางบ้านคอยเตือนให้ระมัดระว้งมาตลอด ทุกวันนี้คดียังไม่มีความคืบหน้าที่จะลงโทษฝ่ายผิด และทางครอบครัวเดือดร้อน เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของบ้าน

ขณะที่พนักงานสอบสวน กล่าวว่า ได้เรียกคนขับและกระเป๋ารถเมล์ สาย 115 เบอร์ 4 มาสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว ยืนยันว่า ไม่ได้ขับปาดหรือแซงกันมากับเบอร์ 10 และบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิดจึงยังไม่สามารถแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายกับใครได้ จนกว่าจะสอบพยานเพิ่มเติมและสอบคนขับกับกระเป๋ารถอีกคัน ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานก่อนสรุปสำนวนแจ้งข้อกล่าวหา

ด้าน นางสาวเอ (นามสมมติ) กระเป๋ารถเบอร์ 4 ที่มาให้ปากคำพนักงานสอบสวน ยืนยันว่า ไม่ได้ขับแซงหรือปาดกันเพื่อแย่งผู้โดยสาร และไม่ได้เฉี่ยวชนรถผู้ตาย แต่ขับคู่กันมาจริง โดยรถตนจอดอยู่เลนขวาสุด และได้ยินเสียงดังเหมือนรถชน ผู้โดยสารตะโกน รถชน มีคนอยู่ใต้ท้องรถ จึงลงไปดู เห็นผู้ตายนอนอยู่ใต้ท้องรถเบอร์ 10 ส่วนตัวไม่สนิทกับคนขับรถเบอร์10 จึงไม่รู้ว่ามีพฤติกรรมการขับรถอย่างไร