ร้องเรียนเทศบาลกว่าปีไม่คืบ จนสร้างอาคารลุกล้ำถนนสาธารณะแล้วเสร็จ

ประเด็นคือ- ชาวบ้าน ต.หัวเวียง ร้องเรียนเทศบาลนครลำปางให้พิจารณายกเลิกการสร้างอาคารเอนกประสงค์บนถนนสาธารณะ ตั้งแต่ 29 เม.ย. 58 ซึ่งเป็นช่วงกำลังก่อสร้าง กระทั่งอาคารสร้างแล้วเสร็จ ติดตามเรื่องไปที่เทศบาลกลับได้รับคำตอบว่า “เอกสารหาย” ทั้งนี้อาคารดังกล่าวสร้างบนที่ดินสาธารณะ และปิดทางเข้าออกบ้านของผู้เสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (9 พ.ย. 60) นายสุรวิทย์ ต.ประยูร อายุ 30 ปี บุตรชายของนายสุรพล ต.ประยูร อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60-62 ถ.ราชวงศ์ ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง ได้นำสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบที่อาคารเอนกประสงค์ชุมชนสนามบิน ซึ่งตั้งอยู่บน ถ.พระบาท ซ.1 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง

นายสุรวิทย์ ได้ชี้ให้ดูพื้นที่ที่ก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ชื่อศาลาประชาร่วมใจ ชุมชนสนามบิน ซึ่งมีขนาด 8×16 เมตร โดยประมาณ ก่อสร้างบน ถ.พระบาท ซ. 1 โดยอาคารดังกล่าวทางชุมชนโดยประธานชุมชนได้ของบประมาณจากรัฐบาล ผ่านทางเทศบาลนครลำปาง ซึ่งเป็นงบ SML มาทำการก่อสร้าง โดยก่อนก่อสร้างก็ไม่ได้แจ้งให้ตนเองหรือสอบถามความคิดเห็นของตนเอง ทั้งๆ ที่เป็นเจ้าของที่ดินที่อยู่ติด ถ.พระบาท ซ.1 แต่อย่างใด

เมื่อเริ่มก่อสร้าง ครอบครัวของตนเองทราบเรื่องและเห็นว่ามีการก่อสร้างปิดทางเข้าออกที่ดินของตนเองทั้งหมด ตนจึงยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง เมื่อศูนย์ดำรงธรรมตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นหน้าที่ของเทศบาลนครลำปาง จึงให้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังเทศบาลนครลำปาง

คุณพ่อของตนจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปถึงนายกเทศมนตรีนครลำปาง ในวันที่ 29 เม.ย. 58 ข้อความว่า ขอให้เทศบาลนครลำปางตรวจสอบการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ของชุมชนสนามบิน ซึ่งกำลังก่อสร้าง อาคารนี้ได้สร้างบนทางสาธารณะประโยชน์และปิดบังทางเข้าออกที่ดินของตนเอง อยู่บริเวณ ถ.พระบาท ซ. 1 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ตรงข้ามบ้านเลขที่ 8

ต่อมาวันที่ 6 พ.ค. 58 ผอ.ส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง ได้รับเรื่องและส่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมอาคารฯ ติดตามและดำเนินการตามระเบียบในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทุกอย่างเหมือนได้รับการตรวจสอบ ซึ่งตนเองและครอบครัวก็รอ เพราะเชื่อว่าทางเทศบาลนครลำปางจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายการก่อสร้างแล้วเสร็จ ตนเองก็ไม่เห็นมีอะไรคืบหน้า ทุกอย่างเงียบหายไป

กระทั่งล่าสุดเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ตนเห็นว่าหากปล่อยไว้เช่นนี้ ที่ดินของตนเองซึ่งขณะนี้ถูกปิดทางออกก็จะไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากกำลังวางแผนทำอาคารพาณิชย์ ซึ่งก็จะได้รับผลกระทบทั้งหมด จึงได้ไปติดตามเรื่องที่คุณพ่อร้องเรียนไว้ แต่นายกเทศมนตรีนครลำปางอ้างว่าหนังสือร้องเรียนฉบับดังกล่าวหาย และขอให้ตนเองยื่นเรื่องมาใหม่ พร้อมอ้างว่าไม่ต้องการทะเลาะกับชาวบ้าน ซึ่งตนเองเห็นว่าครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรม และเทศบาลนครลำปางโดยนายกเทศมตรีนครลำปางในฐานะเจ้าพนักงานปล่อยปละละเลยและไม่ดำเนินการใดๆ ปล่อยให้มีการนำเงินของรัฐมาก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่บนทางถนนสาธารณะประโยชน์ได้อย่างไร

แม้ก่อนหน้านี้จะมีการร้องเรียนทักท้วงไปแล้ว แต่ไม่มีการระงับยับยั้ง และยังคงเพิกเฉยปล่อยให้มีการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของตนเองด้วย

ซึ่งขณะนี้ตนเองกำลังปรึกษาทนายความเพื่อขอให้ทางสำนักงานที่ดินมาทำการรังวัดแนวเขตให้ชัดเจน เมื่อชัดเจนแล้วก็จะให้ทนายความดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเอง และจะให้ดำเนินการทางกฎหมายกับเจ้าพนักงานที่ปล่อยปละละเลยในเรื่องดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบอาคารเอนกประสงค์หลังดังกล่าวก็พบว่า เพิ่งมีการก่อสร้างเสร็จมาไม่นานนี้ และตั้งอยู่บนทางสาธารณะจริง โดยสังเกตจากอาคารพาณิชย์ที่มีการก่อสร้างในพื้นที่เดียวกันซึ่งจะก่อสร้างอยู่หลังแนวเขตของเสาไฟฟ้าทั้งหมด แต่จะมีเพียงอาคารหลังดังกล่าวที่สร้างรุกล้ำออกมาบนถนนอย่างเด่นชัด และปิดพื้นที่ของเจ้าของที่ดินที่ร้องเรียนทั้งหมด