SHARE

คัดลอกแล้ว

ลุงป่วยเป็นมะเร็ง นั่งรถเข็น ให้ทนายความพามาร้องเรียนที่ ตำรวจภูธรภาค  5 หลังถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพล ข่มขู่ไล่ออกจากที่ดินของตนเอง

วันที่ 6 ส.ค. 61 นายแก้ว มูลตา อายุ 68 ปี และครอบครัว ชาวบ้านหมู่ 8 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พร้อมนางสาวธนพร ศิริบานเย็น ทนายความ เดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่าถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลข่มขู่ให้ย้ายออกจากพื้นที่ โดยมี พ.ต.ต.ทวี ชัยคำหล้า สารวัตร ฝ่ายอำนวยการ 1 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ รับเรื่องร้องเรียน

นายแก้ว ซึ่งป่วยเป็นมะเร็ง เดินไม่ได้ต้องนั่งอยู่บนรถเข็น บอกว่า ตนมีที่ดินที่มีใบครอบครองสิทธิ์การใช้ที่ดินจากกรมป่าไม้เนื้อที่กว่า 30 ไร่ โดยมีพื้นที่ติดลำน้ำประมาณ 15 ไร่ ที่บ้านโหล่งขอด หมู่ 8 อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งก็ทำกินบนที่ดินผืนนี้มานานกว่า 40 ปีแล้ว

ต่อมาปี 59 มีกลุ่มบุคคลกว่า 10 คน เข้ามาหาตนเองภายในบ้าน พร้อมแจ้งให้เซ็นเอกสารแบ่งปันที่ดินจำนวน 15 ไร่ ที่ติดลำน้ำให้ ด้วยความกลัวจึงยอมเซ็นไป แต่หลังจากนั้นตนและครอบครัวก็ยังทำกินบนที่ดินพื้นนี้ต่อ โดยปลูกข้าวโพด และถั่ว

กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่ง เดินทางมาหาตนที่บ้านพร้อมกล่าวในเชิงข่มขู่ว่า เป็นมือปืนติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ก่อนจะบอกให้ตนเองและครอบครัวย้ายออกไป จากนั้นก็นำป้ายข้อความ “ห้ามบุกรุก” มาปักไว้บนที่ดิน จึงรู้สึกงงมาก

นายแก้วบอกว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรในพื้นที่แล้ว แต่เรื่องไม่คืบหน้า จึงต้องปรึกษาทนายความ และยื่นเรื่องไปยังกระทรวงยุติธรรม เพราะเกรงว่าจะถูกฮุบที่ดิน

นายแก้วอ้างว่า ขณะนี้คดียังอยู่ในชั้นศาล แต่ปรากฏว่ายังมีกลุ่มบุคคลเข้ามาข่มขู่ คุกคามตนเองและครอบครัวอยู่บ่อยครั้ง จนรู้สึกหวาดผวา และกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย จึงเดินทางมาร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมอีกครั้ง

ด้าน พ.ต.ต.ทวี กล่าวว่า เบื้องต้นได้แนะนำให้นายแก้วและครอบครัวไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรโหล่งขอด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับกลุ่มบุคคลที่เข้ามาข่มขู่  ขณะเดียวกันจะนำเรียนผู้บังคับบัญชาเพื่อรับทราบและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบมีผู้มีอิทธิพลเข้าไปข่มขู่ชาวบ้านจริง ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า