ร้อนจัด-อาหารเน่าในน้ำ ทำปลาลอยอืดตายนับแสน

ปลาลอยอืดเต็มสระน้ำวัดหนองคราม ปราณบุรี ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง คาดเกิดจากอากาศร้อนจัด และเกิดแก๊สจากอาหารที่ปลาไม่กินทำให้น้ำเน่า

วันที่ 28 เม.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Bbank ซึ่งเป็นเณรวัดหนองคราม ได้โพสต์ภาพปลาตายลอยเป็นแพ พร้อมกับระบุข้อความ ขอความช่วยเหลือจากญาติโยมที่ว่างเว้นจากภารกิจมาช่วยกันตักปลาที่ตายออกจาสระน้ำของวัดโดยด่วน หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ได้มีการแชร์ข้อความไปยังกลุ่มสื่อออนไลน์ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อย่างรวดเร็ว

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่วัดสิทธิสังคาราม หรือ วัดหนองคราม ต.ปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านปราณบุรี โดยพบว่าปลานิลและปลาอื่นนับแสนตัว ลอยตายเป็นแพเต็มสระน้ำของวัด ซึ่งตรงกลางมีวิหารพระหลวงพ่อโสธรตั้งอยู่กลางสระน้ำ เป็นปลาตัวใหญ่น้ำหนักประมาณ 1-2 กิโลกรัม อายุประมาณ 4 ปี ลอยตายส่งกลิ่นเหม็นเน่าและเหม็นคาวปลาคละคลุ้งไปทั่ว

พระภิกษุ สามเณร และแม่ชีของวัดหนองคราม กำลังช่วยกันใช้อุปกรณ์ตักปลาที่ลอยตายอยู่ภายในสระน้ำ โดยมีญาติโยมรอบๆ วัดหนองคราม และที่อยู่อำเภอใกล้เคียงที่ทราบข่าวได้เดินทางมาช่วยเหลือทางวัดในการตักปลาตายออกจากสระน้ำ อีกนับสิบคน

พระปลัดสุชาติ สุชาโต พระลูกวัดหนองคราม กล่าวว่า สระน้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่ บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ระดับน้ำลึกประมาณ 5-6 เมตร มีปลาที่ชาวบ้านนำมาปล่อยเพื่อทำบุญอยู่หลายชนิด รวมกันประมาณ 8 ตัน ซึ่งปลาที่ตายส่วนใหญ่เป็นปลานิลขนาดใหญ่ ปลาคราฟ ปลาบู่ ปลาเก๋า ฯลฯ ส่วนปลาที่ยังไม่ตาย เป็นพวกปลาดุก ปลาสวาย และปลาแรด

ทั้งนี้เริ่มสังเกตว่ามีปลาเริ่มลอยตายขึ้นมาเล็กน้อยตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา และตายลอยอืดขึ้นเป็นจำนวนมากตั้งแต่เมื่อวาน จนวันนี้เพิ่มมากขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ส่งกลิ่นเหม็นเน่า น้ำภายในสระจากที่เคยใสเปลี่ยนเป็นสีเขียวขุ่นเข้ม ทางวัดจึงให้สามเณรที่วัดโพสต์ภาพและข้อความขึ้นเฟซบุ๊ก เพื่อแจ้งขอความช่วยเหลือจากญาติโยม ซึ่งเมื่อเช้ามีชาวบ้านใจดีช่วยนำรถแบ๊คโฮมาขุดหลุมให้ เพื่อนำปลาที่ตายแล้วใส่ลงไปในหลุมสำหรับฝังกลบ ซึ่งจะต้องรีบตักปลาเน่าออกให้หมดโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือปลาที่ยังไม่ตายอีกเป็นจำนวนมากที่ยังอยู่ภายในสระน้ำ

พระปลัดสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อปี 2558 เคยเกิดเหตุการณ์ปลาตายลอยเป็นแพแบบนี้ มาแล้วครั้งหนึ่ง เบื้องต้นสาเหตุปลาตายนั้น คาดว่าน่าจะเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด กระทบต่อปริมาณออกซิเจนในน้ำมีปริมาณน้อยลง แม้ว่าทางวัดจะมีการช่วยตีน้ำเพิ่มออกซิเจนแล้วแต่ไม่เป็นผล

ประกอบกับน้ำเริ่มเน่าจากสาเหตุหลัก ที่มีญาติโยมได้นำอาหารเม็ดชนิดสีชมพู จำนวน 10 กระสอบมาเทใส่สระน้ำ แต่ปลาไม่กิน ทำให้น้ำเน่า ซึ่งอาหารเม็ดดังกล่าวเป็นอาหารคนละชนิดกับที่ทางวัดนำมาเลี้ยงปลา ประกอบกับอากาศร้อนจัดทำให้อาหารเม็ดเน่าเป็นแก๊ส ทำปลาขาดอากาศหายใจ น็อกตายจำนวนมากดังกล่าว จึงต้องรีบตักซากปลาเน่าออกจากสระโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะพยายามตักออกให้หมดในวันนี้

คาดว่าจะมีปลาตายในครั้งนี้ประมาณ 5 ตัน แล้วรีบดูดน้ำเสียออก ทำความสะอาดสระแล้วเปลี่ยนน้ำใหม่ เพื่อช่วยเหลือปลาที่ยังไม่ตาย อีกประมาณ 3-4 ตัน แต่หากปล่อยทิ้งไหว้ ปลาอาจจะตายยกสระก็เป็นได้