‘ร้อยเอ็ด’ เร่งปิดพนังกั้นลำน้ำ ชี้น้ำไหลเชี่ยว เริ่มกัดเซาะคอสะพาน

เดินหน้าปิดพนังกั้นลำน้ำขาด จ.ร้อยเอ็ด ล่าสุดรุกคืบเข้าไป เหลือเพียง 5 เมตร แต่น้ำไหลเชี่ยวแรง การทำงานจึงเป็นไปอย่างล่าช้า ขณะที่ผู้ว่าฯ สั่งเฝ้าระวังจุดเสี่ยง

วันที่ 20 ก.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีพนังกั้นลำน้ำขาด บริเวณบ้านท่าเยี่ยม ต.วังหลวง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ได้พยายามสุดความสามารถที่จะปิดกั้นพนังกั้นน้ำที่ขาดทั้งคืน โดยพบว่ายิ่งแคบยิ่งลำบาก เนื่องจากน้ำจะยิ่งไหลเชี่ยวแรงขึ้น แต่ก็ยังเดินหน้าทำงานต่อไป ในขณะที่ผู้ว่าราชการ จ.ร้อยเอ็ด สั่งกำชับตั้งชุดเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอื่น เช่น พนังกั้นน้ำในคุ้งน้ำ และคอสะพาน ที่เป็นจุดเสี่ยงอย่างใกล้ชิด หลังจากพบว่าน้ำเริ่มมีกัดเซาะคอสะพานเกือบขาดตัดทางสัญจรอยู่หลายแห่ง

สืบเนื่องจาก ปริมาณฝนที่ตกหนักทำให้พนังกั้นน้ำขาดในช่วงระหว่างบ้านท่าเยี่ยม-ท่าทางเกวียน ใน ต.วังหลวง อ.เสลภูมิ ร้อยเอ็ด ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา และขณะนี้ยังไม่สามารถกั้นพนังให้อยู่ในสภาพเดิมได้ แม้เจ้าหน้าที่จากสำนักชลประทานกลางที่ 6 ขอนแก่น จะระดมสรรพกำลังสุดความสามารถ ประสานกับเครื่องจักรกลจากหลายภาคส่วน และพยายามแก้ปัญหาเป็นเวลา 3 วันแล้ว

ล่าสุด น้ำที่ไหลออกมาจากลำน้ำยัง ได้เริ่มส่งผลกระทบอื่นหลายแห่ง โดยมีการตรวจพบว่า น้ำเริ่มมีการเซาะคอสะพานเป็นโพรงใต้ดิน และมีแนวโน้มว่าจะทำให้คอสะพานขาด ไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้หลายแห่ง ซึ่งทางกองช่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้เข้าทำการแก้ไข เพื่อป้องกันความเสียหาย และให้ใช้สัญจรไปมาได้ตามปกติ

ในขณะที่การแก้ปัญหาถมพนังกั้นน้ำที่ขาด ก็มีการดำเนินการไปพร้อมกันตลอดทั้งวัน จนกระทั่งถึงเวลากลางคืน โดย นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วย 2 รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายชยันต์ ศิริมาศ และนายเลิศบุตร กรองทอง รองผู้ว่าราชการ จ.ร้อยเอ็ด ได้เดินทางไปควบคุมดูแลให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และตรวจความคืบหน้าการดำเนินการซ่อมแซมพนังกั้นลำน้ำยัง โดยพบว่าส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านกว่า 15,000 ไร่ และมีการระดมสรรพกำลังกัน ใช้ความพยายาม ที่จะปิดกั้นบริเวณที่ขาดให้ได้ โดยมีการระดมเครื่องจักรกลหนักเข้ามาเสริม เพื่อจะปิดกั้นให้เร็วที่สุด

โดยนอกจากเครื่องจักรกล ทั้ง 12 คัน ที่เข้ามาทำงาน จนกระทั่ง 23.00 น. ได้รุกคืบเข้าไปจนเหลือเพียง 5 เมตร ปรากฏว่ายิ่งแคบลง น้ำยิ่งไหลแรง และทำให้การทำงานล่าช้ายิ่งขึ้น จนต้องแก้ปัญหาด้วยการใช้รถเครนขนาดใหญ่ขนาดกำลังยกน้ำหนักได้ 50 ตัน ของกรมชลประทาน ที่เดินทางมาถึง ยกแท่งหินขนาด 6 ตัน ลงไปวาง แล้วเสริมด้วยกล่องหินแกรเบี้ยนลงวางพร้อมกับก้อนหินและดิน โดยวางเป้าหมายว่าจะให้เสร็จสิ้นก่อน 24.00 น.

ทางด้าน นายเลิศบุตร กรองทอง กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ มีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ชลประทานกลางที่ 6 จ.ขอนแก่น ว่าจะเอาให้เสร็จให้ได้ภายในคืนที่ผ่านมา หากไม่สำเร็จจะไม่มีการหยุดพัก

ในขณะที่ทางด้าน นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการ จ.ร้อยเอ็ด ที่ติดตามการทำงานอยู่ด้วย กล่าวว่า หลังจากการปิดกั้นเสร็จ ก็จะเก็บงานในรายละเอียด เพื่อเสริมความแข็งแรง ขยายออกมา 2 ด้าน ให้เกิดความแข็งแรงมากขึ้น หลังจากเชื่อมต่อการกั้นน้ำได้แล้ว ก็มีแผนที่จะต้องเสริมความแข็งแรงมากขึ้น เพี่อเตรียมรับมือกับมวลน้ำก้อนใหม่ ไม่ให้ขาดอีก รวมทั้งได้เน้นให้มีการตั้งชุดตรวจสอบความแข็งแรงในจุดเสี่ยงและคุ้งน้ำ และคอสะพานที่ไม่แข็งแรง กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าตรวจสอบและเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา และเกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นอีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ร้อยเอ็ด ระดมเครื่องจักรเสริมอุดพนังกั้นน้ำขาด ให้เสร็จในวันนี้ก่อนพายุ “เซินติญ”มา
• กรมชลฯ เร่งปิดช่องพนังกั้นลำน้ำยังขาดบ้านท่าเยี่ยม จ.ร้อยเอ็ด ให้เสร็จโดยเร็ว
• พนังลำน้ำยังแตก! ท่วมนาข้าวกว่าพันไร่ ในร้อยเอ็ด

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnew