วันอังคารนี้ กระทรวงแรงงานจะเสนอผลการปรับอัตราค่าแรงใหม่ให้ ครม.พิจารณา ขณะที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการเยียวยาลดหย่อนภาษี เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการปรับค่าแรง แต่ภาคเอกชนกลับเห็นว่า มาตรการดังกล่าวอาจไม่เพียงพอต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น
การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกวันละ 5 – 22 บาททั่วประเทศ รองประธานสภาองค์กรนายจ้าง ผู้ประกอบการค้าอุตสาหกรรมไทย ระบุว่า แม้จะยังไม่มีผลทันที แต่ก็สร้างความกังวลใจให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการขนาดเล็ก ถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับต้นทุน
และเห็นว่ามาตรการเยียวยาหักลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า ไม่เพียงพอที่จะลดผลกระทบ โดยเสนอแบ่งกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ และเอสเอ็มอีที่ได้รับผลโดยตรง โดยออกมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสม และสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง
ส่วนผู้ประกอบการประมงในจังหวัดสมุทรสาคร บอกว่า เมื่อค่าแรงเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการต้องปรับตัว เพื่อให้กิจการอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็นการลดคนงาน เปลี่ยนรูปแบบการจ้างจากรายเดือนเป็นรายวัน หรือต้องขึ้นราคาสินค้าเพื่อให้สามารถประคองกิจการให้อยู่รอดได้

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ขณะที่ นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ระบุว่า วันจันทร์นี้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. จะหารือถึงผลกระทบค่าแรง เพื่อประเมินสถานการณ์ และ ส.อ.ท.จะประชุมใหญ่สมาชิกหารือถึงผลกระทบด้วย โดยให้อุตสาหกรรมจังหวัดไปคุยกับผู้ประกอบการ และเสนอผลกระทบมาอย่างละเอียด
ส่วนคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย หรือ คสรท. ก็จะประชุมเร่งด่วนร่วมกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ โดยยืนยันว่าค่าจ้างต้องเท่ากันทั่วประเทศ
นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดค่าจ้าง ยืนยันจะไม่มีการทบทวนมติปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอีก เพราะเป็นฉันทามติร่วมกันจากทุกฝ่าย และกระทรวงแรงงานจะรายงานผลการปรับขึ้นค่าแรง ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในการประชุมวันอังคารหน้า
ขณะที่กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการเยียวยา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงด้วย