ป สรุปเรื่อง Animal Farm ใน 3 นาที หลังลุงตู่แนะนำให้อ่าน

Animal Farm ของจอร์จ ออร์เวล เป็นหนังสือที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี แนะนำให้คนไทยได้อ่าน สำหรับใครที่ยังไม่มีเวลาอ่านหนังสือ
ทีมข่าวเวิร์คพอยท์จะสรุปแบบย่อ ๆ ให้ฟัง

Animal Farm เป็นเรื่องของฟาร์มแห่งหนึ่งซึ่งปกครองโดยชาวไร่ใจร้าย กดขี่ข่มเหงสัตว์ต่าง ๆ ในไร่ให้ทำงานแทน ขณะที่ตนเองใช้ชีวิตสุขสบาย

ในคืนหนึ่ง “ผู้พันเฒ่า” หมูป่าผู้เปี่ยมปัญญา ได้เรียกประชุมสรรพสัตว์ในไร่ เผยแพร่อุดมการณ์ซึ่งเป็นความฝันของตนเอง อุดมการณ์นี้มีอยู่ว่า สัตว์ควรจะปกครองกันเอง อย่าปล่อยให้มนุษย์กดขี่ข่มเหงอีกต่อไป เหล่าสัตว์ทั้งหลายต่างประทับใจ แต่งเพลงสรรเสริญเยินยอกันใหญ่ แต่ไม่กี่วันก็เกิดเหตุเศร้าหมูผู้เฒ่าได้ลาโลกไป

หลังจากนั้นไม่นาน แกนนำหมู ได้แก่ สโนว์บอลและนโปเลียน ก็ได้ประกาศลัทธิ “สัตว์นิยม” ยึดอำนาจจากระบอบมนุษย์ได้สำเร็จ

กลายเป็นช่วงฟ้าสีทองผ่องอำไพ เหล่าสัตว์กระตือรือร้นเป็นอย่างมาก เขียน “ค่านิยมสัตว์ 7 ประการ” ไว้บนผนังโรงนา ข้อที่สำคัญที่สุดก็คือ สัตว์ทุกตัวเท่าเทียมกัน ทำให้ในการตัดสินใจแต่ละครั้งต้องมีการประชุมลงมติ ส่วนข้ออื่น ๆ ก็มีการกำหนด เช่นว่าห้ามทำตัวเหมือนมนุษย์

ต่อมาพวกหมูเริ่มแบ่งงานกันทำ สโนว์บอลสอนให้สัตว์ใช้ชีวิตตามหลักสัตว์นิยม กินอิ่ม นอนหลับ แบ่งงานกันทำ นโปเลียนรับลูกหมามาบ่มเพาะด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก เวลานั้นทุกคนมีความสุข ช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็ง

ไม่นานนัก ก็มีเหตุให้สโนว์บอลกับนโปเลียนก็แตกคอกัน เรื่องมีอยู่ว่า สโนว์บอลเสนอให้มีการสร้างกังหันลมไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน นโปเลียนอิจฉาตาร้อน ใ้ช้ลูกหมาที่ตนเองล้างสมองมาไล่กัด จนสโนว์บอลต้องหนีออกจากฟาร์ม

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นโปเลียนประกาศตนเป็นผู้นำ ขอคิดเองทุกอย่างทั้งหมด ไม่ต้องประชุมสภาสัตว์แล้ว โดยบอกว่า ทุกการตัดสินใจ เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของเหล่าสัตว์ทั้งนั้น

นโปเลียนเอานโยบายกังหันลมไฟฟ้าของสโนว์บอลกลับมาทำ อวดอ้างว่าเป็นผลงานตัวเอง แต่กังหันของนโปเลียนไม่แข็งแรงพอ วันหนึ่งมันก็เลยพังลง ซึ่งแทนที่จะเรียนรู้ แก้ไขและดูด้วยตนเอง นโปเลียนกลับเลือกที่จะแต่งตั้งหมูหนุ่มอีกตัว ชื่อสควีเลอร์ เป็นรัฐมนตรีโฆษณาชวนเชื่อ ออกไปบอกกับสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าเป็นฝีมือสโนว์บอล สมคบกับพวกมนุษย์มาแก้แค้นและต่อมา พอมีสัตว์ตัวไหนต่อต้านนโปเลียน ก็ชี้หน้าว่าเป็นพวกสโนว์บอลและขับไล่ออกไปทั้งหมดสมุนผู้จงรักภักดีที่สุดคือม้า ไม่ตั้งคำถามกับผู้นำ ก้มหน้าก้มตาทำงานหนัก หวังให้ฟาร์มก้าวหน้า เพื่อชีวิตของม้าเองจะได้ดีขึ้น

พอไม่มีใครค้าน นโปเลียนก็เริ่มเอาใหญ่ เขียนประวัติศาสตร์ใหม่ให้ตัวเองเป็นฮีโร่สู้กับผู้ร้ายอย่างสโนว์บอล แถมยังทำตัวเหมือนมนุษย์เข้าไปทุกที นอนบนเตียง กินไวน์เป็นประจำ ซึ่งผิดค่านิยมสัตว์ที่ว่าไว้ตอนแรกอยู่เห็น ๆ แต่สุดท้ายก็จะได้ สควีเลอร์ ที่เป็นโฆษกมาแก้ต่างให้ หาข้ออ้างให้นโปเลียนได้ทุกครั้ง ทั้งยังชี้ว่านโปเลยนเป็นผู้เสียสละทำเพื่อส่วนรวม สวนทางกับที่สัตว์ทั้งหลายล้วนอดอยาก ทำงานหนักขึ้นทุกวัน และไม่เคยได้รับส่วนแบ่งอาหารที่ลงแรงทำ

ส่วนม้าโง่ที่ขยันขันแข็งทำงานหนักจนตาย แต่ก็ยังปักใจเชื่อจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ว่าชีวิตของพวกตน มีความเป็นอยู่ที่ อย่างน้อยก็ดีกว่าเมื่อเทียบกับสมัยที่มนุษย์ยังบริหารฟาร์ม

หลายปีต่อมากังหันลมได้ผุดขึ้นมาใหม่ สร้างรายได้อย่างงาม โดยทั้งนี้ คำสัญญาของพวกหมูเมื่อแรกที่มาการปฏิวัติ ที่บอกว่าว่าต่อไปนี้คอกปศุสัตว์จะมีไฟฟ้าใช้ น้ำประปาจะทั่วถึง ไม่เคยเป็นจริง แต่เหล่าสัตว์ก็ลืมเรื่องนั้นไปหมดแล้ว

นโปเลียนเริ่มติดต่อกับมนุษย์ ใส่เสื้อผ้า ดื่มไวน์ ถือแส้หวดสัตว์อื่น ขณะที่ค่านิยมสัตว์ 7 ประการก็เริ่มมีข้อแม้ใส่ขึ้นมาเรื่อย ๆ เช่นที่ว่า สัตว์ทุกตัวเท่าเทียมกัน แต่สัตว์บางตัวเท่าเทียมกว่าสัตว์อื่น หรือว่า เดินสี่ขาดีแล้ว แต่ว่าเดินสองขาเหมือนมนุษย์ดีกว่า

สุดท้ายนโปเลียนเชิญมนุษย์มาที่ฟาร์ม ประกาศจับมือกับมนุษย์เป็นศัตรูกับพวกแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ สัตว์ที่เหลืออยู่ในฟาร์มได้มองลอดหน้าต่างเข้าไปในงานเลี้ยง เห็นนโปเลียนดื่มไวน์เมามาย เล่นไพ่กับมนุษย์ จนสุดท้ายแล้ว ก็เกิดความสงสัยว่าใครเป็นสัตว์ ใครเป็นมนุษย์กันแน่

และทั้งหมดนี้คือเรื่องสั้น ๆ ของแอนิมอลฟาร์ม
สนใจรายละเอียดที่เหลือเต็มๆตามอ่านได้ในหนังสือ