Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ขอบคุณภาพ: รัฐบาลไทย

ประเด็นคือ – นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์สร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งสภาธุรกิจสหรัฐฯ – อาเซียน และสภาหอการค้าสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพ

วันนี้ (4 ต.ค. 60) เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งสภาธุรกิจสหรัฐฯ – อาเซียน (USABC) และสภาหอการค้าสหรัฐอเมริกา (U.S. Chamber of Commerce) เป็นเจ้าภาพ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความมั่นคงและเสถียรภาพของไทยมีผลต่อพัฒนาการและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจก็มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความเจริญรุ่งเรืองในภาพรวมของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงให้ความสำคัญกับการผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับหุ้นส่วนต่างชาติ รวมทั้งมีนโยบายและแนวทางเพื่อวางพื้นฐานทางเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง และเตรียมความพร้อมของไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน

โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีย้ำความสัมพันธ์ยาวนานระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่มีอย่างรอบด้าน โดยความสัมพันธ์ทางธุรกิจการค้า การลงทุนระหว่างสองประเทศ มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ทั้งในเชิงภาพรวมและระดับประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เน้นเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และความกินดีอยู่ดีของชาวอเมริกัน รวมถึงการสร้างงาน

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งได้เน้นย้ำความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนระหว่างสองประเทศ และจะส่งเสริมความร่วมมือกันในอนาคตต่อไป ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคง ซึ่งเป็นเสาหลักที่ค้ำชูความเป็นพันธมิตรระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และมีส่วนสำคัญในการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค ในประเด็นเศรษฐกิจ ไทยและสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ประธานาธิบดีทรัมป์เห็นพ้องว่า ประเด็นเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน เพราะทั้งสองประเทศต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน

ในปัจจุบันมีนักธุรกิจไทยที่ไปลงทุนในสหรัฐฯ กว่า 20 บริษัท มูลค่ารวมราว 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสร้างงานกว่า 68,000 ตำแหน่ง ในขณะเดียวกันธุรกิจสหรัฐฯ กว่า 100 บริษัท ก็เข้ามาลงทุนในไทย มูลค่ากว่า 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยได้เปรียบในเชิงที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ ความพร้อมในเชิงโลจิสติกส์ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งไทยประสบความสำเร็จในการยกระดับการพัฒนา และเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มประเทศ CLMV ตลาดอาเซียน รวมทั้งภูมิภาคเอเชีย นโยบายประเทศไทย+1 ไม่ได้ให้ความสำคัญแต่เพียงระดับทวิภาคี แต่ยังต่อยอดไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพ

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้แจ้งแก่ภาคเอกชนสหรัฐฯ เกี่ยวกับนโยบายในการปฏิรูปเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะประเทศไทย 4.0 และการพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นประตูแห่งโอกาสที่เปิดกว้าง และพร้อมต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า