SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – ฟังความอีกด้าน ลูกชายพ่อเฒ่าอายุ 106 ปี ร้องศาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ขอความเป็นธรรม อ้างส่งเงินให้พ่อทุกเดือน

จากกรณี นายปลอด รักษาสัตย์ พ่อเฒ่าอายุ 106 ปี แต่งตั้งทนายความร้องศาลจังหวัดทุ่งสง ว่า นายชินกุณ รักวรกิจภาคิน (นามสกุลเดิม รักษาสัตย์) อายุ 65 ปี ลูกชาย (พ่อเฒ่า) และนายพิชิตศักดิ์ หรือนายศุภณิช รักวรกิจภาคิน(นามสกุลเดิม รักษาสัตย์) ซึ่งเป็นลูกชาย และมีศักดิ์เป็นหลานชายของพ่อเฒ่า ไม่ยอมส่งเงินค่าเลี้ยงดูให้ตามที่ศาลจังหวัดทุ่งสงมีคำสังให้ นายชินกุณ ส่งเงินให้เดือนละ 5 พันบาท นายพิชิตศักดิ์หรือนายศุภณิช เดือนละ 3 พันบาท หลังจากที่

นายปลอด (พ่อเฒ่า) ตั้งทนายความไปยื่นต่อศาล ขอที่ดินสวนยางพาราที่มอบให้กลับคืนมา โดยศาลมีคำสั่งในครั้งแรกว่า ให้ 2 พ่อลูกส่งเงินให้ทุกเดือน หากขาดส่งติดต่อกันเพียง 2 เดือน ถือวาขัดคำสั่งศาล ปรากฏว่าทั้งสองพ่อลูกขาดการส่งเงินให้นายปลอดติดต่อกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ นายปลอด จึงแต่งตั้งทนายความให้ไปร้องต่อศาล เป็นครั้งที่ 2

ต่อมาเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ศาลจึงมีคำสั่งยึดทรัพย์ของนายชินกุณ (ลูกชาย) เป็นที่ดินสวนยางพารา เนื้อที่ 5 ไร่เศษ สวนยางพาราของนายพิชิตศักดิ์หรือนายศุภณิช (หลานชาย) เนื้อที่ 2 ไร่เศษ เพื่อนำมาดำเนินการขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมามอบให้นายปลอดเป็นค่าเลี้ยงดู เพราะ นายชินกุณ และนายพิชิตศักดิ์หรือนายศุภณิช ขัดคำสั่งศาล

ล่าสุด วันที่ 28 ธ.ค.60 นายชินกุณ (ลูกชาย) และนายพิชิตศักดิ์ หรือนายศุภณิช (หลานชาย) ได้ไปร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลจังหวัดทุ่งสง โดยอ้างว่า ตนเองและลูกชายได้ส่งเงินให้ นายปลอด บิดา ทุกเดือนตามคำสั่งศาล แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใด นายปลอด จึงได้แต่งตั้งทนายร้องศาล จนศาลสั่งยึดทรัพย์ ศาลได้รับเรื่องเอาไว้ พร้อมกับจะนัดทั้งสองฝ่ายมาพบ และสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง

นายชินกุณ กล่าวว่า จากกรณีเรื่องที่นายปลอดผู้เป็นพ่อฟ้องร้องตนเองมาจากกรณีที่ดินที่มอบให้นายพิชิตศักดิ์ หรือนายศุภณิช บุตรชายของตนซึ่งเป็นหลานของนายปลอด จำนวน 2 ไร่กว่า ทำให้นายประเสริฐ น้องชายต่างมารดาไม่พอใจจึงได้มีปัญหามาตลอดถึงขั้นไล่ฆ่ากันนายประเสริฐได้ใช้อาวุธปืนขนาด.38 ออกมายิงนายพิชิตศักดิ์หรือนายศุภณิช อาการสาหัสเมื่อปี 55 และได้รักษาตัวจนหาย โดยขณะเกิดเหตุนายประเสริฐ พร้อมลูกชายของเขาคือนายจักรพันธ์ เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ทำให้ทั้งคู่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันพยายามฆ่าแต่ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวได้จนเรื่องถึงชั้นศาลทั้งคู่ถูกจำคุก 12 ปีปัจจุบันยังอยู่ในเรือนจำ

เรื่องนี้ทำให้นายปลอด ผู้เป็นพ่อเสียใจมากพยายามขอร้องไม่ให้มีการดำเนินคดี แต่นายพิชิตศักดิ์หรือนายศุภณิช ถูกยิงปางตายกระสุนถูกท้ายทอยทะลุปากโชคดีรอดชีวิตหวุดหวิดซึ่งเป็นคดีที่ไม่สามารถยอมความได้อยู่แล้ว

แต่หลังจากนั้นเมื่อปี 59 ได้มีการฟ้องร้องเพิกถอนการให้ที่ดินซึ่งศาลได้พิจารณาไกล่เกลี่ยตกลงกันได้โดยที่ส่วนตัวเองจะต้องจ่ายเดือนละ 5,000 บาท นายพิชิตศักดิ์หรือนายศุภณิช  หลานจ่ายเดือนละ 3,000 บาท และมีการบันทึกแนบท้ายหากนายปลอด ผู้เป็นพ่อเสียชีวิตตนเองต้องจ่ายอีก 150,000 บาท จึงได้มีการบันทึกเป็นหลักฐาน โดยหากผิดข้อตกจะทำให้สามารถบังคับคดีได้

“ผมยืนยันว่าไม่เคยทอดทิ้งใดๆ เวลาออกไปตลาดจะซื้อของกินของใช้ไปฝากแทบทุกครั้ง ทำอาหารดีๆ ก็เอาไปฝาก ส่วนการจ่ายเงินประจำเดือนนั้นผมและลูกซึ่งเป็นหลานไปจ่ายเงินเข้าบัญชี ผ่านธนาคาร ธกส.สาขาทุ่งสง ทุกเดือนมีหลักฐานการนำเงินเข้าบัญชี แต่ยอมรับว่าผมไม่รู้เรื่องขั้นตอนศาลไม่ได้นำเอาหลักฐานการเข้าบัญชีไปส่งให้ศาล จนมาทราบเรื่องว่ามีเอกสารจากศาลแจ้งการบังคับคดียึดที่ดินคืน โดยวันนี้ได้นำเอาเอกสารการนำเข้าบัญชีไปส่งให้ศาลแล้ว และไม่ทราบว่าที่นำเงินเข้าบัญชีไปนั้นมีการเบิกจ่ายโดยใครหรือไม่ ส่วนตัวเองนั้นได้ส่งไปทุกเดือน และบางครั้งนายปลอดจะมีอาการหลงลืมเรื่องจากอายุมากแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ช่วงเย็นที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสมพร ชอบทำกิจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้แจ้งว่าหลังจากที่นายปลอบได้นำเอาเอกสารหลักฐานทางการเงินที่ส่งเข้าบัญชีทุกเดือนไปยื่นต่อศาล ศาลได้รับเข้าสู่ระบบเพื่อแจ้งต่อสำนักงานบังคับคดีเพิกถอนคำสั่งการบังคับคดี เนื่องจากการโอนเงินนั้นยังอยู่ในข้อตกลงแนบท้ายสำนวนการไกล่เกลี่ยเมื่อปี 2559

ทางด้าน นางอรพรรณ รักษาสัตย์ ลูกสะใภ้นายปลอด ซึ่งเป็นผู้ดูแลนายปลอด และถือบัญชีเงินฝากของนายปลอด ยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่า นายปลอบ และลูกชาย ขาดการส่งเงินให้นายปลอด ตามที่นายปลอดร้องต่อศาล และพร้อมที่จะไปพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : พ่อเฒ่า 106 ปี ฟ้องศาลขอที่ดินคืนจากลูก หลังไม่ดูแลตนตามรับปาก

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า