ลูกชายร่ำไห้ พ่อวัย 91 ปี ผูกคอตายภายในบ้าน ภรรยาคู่ครองชีวิตเผย ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายบอกให้ไปขายผักที่ตลาด และเคยถูกถามว่า “ถ้าตายไปจะอยู่คนเดียวได้ไหม”
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 ม.ค. 61 ร.ต.ท.หญิง นิรนันท์ เนตรัก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ได้รับแจ้งมีคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 101 ซ.แมคโคร หมู่ 2 ต.บางหมาก อ.เมืองชุมพร จึงได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ รุดไปตรวจสอบ
ที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ปลูกอยู่กลางป่าพรุ ห่างจากถนนสายวัดคูขุดประมาณ 400 เมตร พบว่ามีชาวบ้านอยู่ในที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก ภายในห้องเก็บของหลังบ้านติดกับห้องครัว พบศพผู้เสียชีวิตในสภาพร่างห้อยติดอยู่กับขื่อกลางห้อง โดยมีเชือกไนล่อนผูกติดอยู่กับลำคอไว้แน่น ทราบชื่อต่อมาคือ นายหนู สุขสวัสดิ์ อายุ 91 ปี เป็นเจ้าของบ้าน เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 – 8 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำศพไปชันสูตรอีกครั้งที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ต่อไป
นางสมบูรณ์ สุขสวัสดิ์ อายุ 82 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า ช่วงเช้า หลังจากที่ผู้เสียชีวิตกลับมาจากโรงพยาบาลปากน้ำเพื่อล้างแผลที่เท้า ได้บอกให้ตนไปขายผักที่ตลาด แต่พอกลับมาบ้านตอนประมาณ 10.00 น. ก็ไม่เห็นผู้เสียชีวิต จึงออกตามหาเพราะเป็นห่วงกลัวจะคิดสั้น
ซึ่งก่อนหน้านายหนูได้พูดบ่นกับตนว่า “ถ้าตายไปจะอยู่คนเดียวได้ไหม” เมื่อหายตัวไปจึงวิตกกังวล ขณะเดียวกันได้โทรศัพท์ไปหาหลานของลูกชายให้ช่วยออกตามหาอีกแรง จนกระทั่งพบเป็นศพผูกคอตายลาโลกไปแล้ว
นางสมบูรณ์เล่าอีกว่า สาเหตุเพราะคงจะเกิดอาการน้อยใจตนในบางเรื่อง ประกอบกับผู้เสียชีวิตมีอาการขี้หลงขี้ลืม วันเกิดเหตุน่าจะออกอุบายให้ตนออกไปขายผัก จึงฉวยโอกาสช่วงจังหวะที่ตนไม่อยู่ผูกคอตายดังกล่าว ซึ่งตนก็ไม่ติดใจสาเหตุการตาย
ส่วนนายมีชัย สุขสวัสดิ์ อายุ 45 ปี เจ้าของเต้นท์รถมือสอง (ลูกชาย) หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของผู้เป็นพ่อ จึงรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นร่างที่ห้อยติดอยู่กับขื่อห้อง ร่ำให้ปล่อยโฮล้มฟุบอย่างน่าเวทนาชาวบ้านพร้อมญาติจึงช่วยกันปฐมพยาบาลกันต่อไป