ประเด็นคือ – คืบหน้า รถเก๋งไม่ยอมหลบรถฉุกเฉิน ล่าสุดยังไม่มีใครติดต่อช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ขณะที่ลูกสาวผู้ตายไม่ติดใจเอาความใคร แต่ให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้เกิดซ้ำอีกกับครอบครัวอื่น
จากกรณีที่สมาชิกเฟซบุ๊กของ Kenzaa Standby ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่รถฉุกเฉินคันหนึ่งได้เปิดสัญญาณไซเรนเพื่อขอทาง ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่นำตัวผู้ป่วยอาการหนักส่งไปยังโรงพยาบาล
แต่ระหว่างทางในช่องเลนขวา ได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซูกิ สวิฟต์ สีแดง ไม่ยอมหลบให้ทาง และขับแช่อยู่เลนขวา จนกระทั่งเมื่อรถฉุกเฉินได้ขับตามไปได้สักระยะ ก็ได้ขับเบี่ยงแซงทางด้านซ้ายของรถคันดังกล่าว ซึ่งขณะที่กำลังแซงนั้นพบว่า คนในรถเก๋งได้ลดลง และหันมามองด้วยสายตาแบบไม่เป็นมิตร
โดยหลังจากรถฉุกเฉินได้นำผู้ป่วยที่อยู่ภายในรถส่งไปถึงที่หมายที่โรงพยาบาลครบุรี จ.นครราชสีมา เรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยก็ได้เสียชีวิตลงเมื่อช่วงค่ำของวันเดียวกัน ทำให้คลิปภาพดังกล่าวถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลกันอย่างกว้างขวาง โดยลูกสาวของผู้ตายได้ออกมาอโหสิกรรมให้กับคนขับรถยนต์เก๋งสีแดง และไม่ติดใจเอาความนั้น
ล่าสุดวันนี้ (9 เม.ย. 61) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนางสาวสายใจ แรมครบุรี บุตรสาวคนโตของนายประสิทธิ์ แรมครบุรี อายุ 61 ปี ผู้ป่วยที่เสียชีวิตเปิดเผยว่า ขณะนี้ศพของผู้เป็นพ่อตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดสระผักโพด ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา และจะมีพิธีฌาปนกิจศพที่วัดในช่วงบ่ายของวันนี้ (9 เม.ย.)
ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีหน่วยงานใดแสดงความเสียใจหรือติดต่อเข้ามาให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด รวมทั้งตัวผู้ที่ขับขี่ และผู้ที่นั่งอยู่ภายในรถเก๋งสีแดง ก็ไม่ได้มีการติดต่อเข้ามา
อย่างไรก็ตามทางญาติพี่น้องและครอบครัวไม่ได้ติดใจเอาความกับใครทั้งนั้น เพียงแต่อยากให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ขับขี่ที่ใช้รถใช้ถนนควรมีน้ำใจหลีกทางให้กับรถฉุกเฉินทุกคัน เพราะในการเดินทางทุกวินาทีของรถฉุกเฉินทุกคันมีค่ามากสำหรับผู้ป่วย และครอบครัวของผู้ป่วย