ล้มทั้งยืน! สองตา-ยาย เมืองช้าง ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง

ล้มทั้งยืน! สองตา-ยาย เมืองช้าง ไฟไหม้บ้านวอดเหลือแต่ตอตะโก ข้าวของเครื่องใช้ทรัพย์สินมีค่าถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด วอนผู้ใจบุญหยิบยื่นน้ำใจช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.รังสรรค์ อุตราศรี ร้อยเวร สว. (สอบสวน) สภ.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน จึงประสานรถดับน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลสนม จำนวน 1 คัน เดินทางเข้าระงับเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก31 จุดย่อยอำเภอสนม รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน ของนายบุญเทียน อินทร์แก้ว อายุ 58 ปี เลขที่ 65 หมู่ 7 บ้านโสกแดง ต.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ พบเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในห้องนอนชั้นบนอย่างหนัก มีเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันรีบเข้าไปช่วยกันดับไฟ และช่วยขนข้าวของออกมาทางหน้าต่างชั้นล่างได้บางส่วน ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ ตู้เย็น หม้อหุงข้าว ฝ้าเพดาน สร้อยทองหนัก 2 บาทและทองอีก 1 สลึง พร้อมเครื่องใช้อื่นๆ ถูกเพลิงไหม้เกรียมเสียหายทั้งหมด และยังมีรถยนต์ที่ชาวบ้านช่วยกันเอาออกมาได้ ซึ่งได้รับความเสียหายด้านหน้าและกระจกแตก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาดับไฟนานกว่า 1 ชม. จึงจะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

จากการสอบถาม นางใจเขียม อินท์แก้ว อายุ 58 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุบ้านหลังดังกล่าวมีตาอายุ 95 ปี และยายอายุ 87 กว่าปี อาศัยอยู่ภายในบ้าน ตนมาจากบ้านสนม สังเกตเห็นควันไฟพวยพุ่งออกมาจากชั้นบน เมื่อตั้งสติได้วิ่งไปช่วยตากับยายและจึงตะโกนเรียกให้เพื่อนบ้านมาช่วยกัน

ในขณะที่ นายบุญเทียน อินทร์แก้ว อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกเพลิงไหม้ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนยืนอยู่บริเวณใกล้ๆได้ยินเสียงระเบิดดังตูม พร้อมกับควันไฟลุกขึ้นที่ชั้นสอง ตนจึงรีบวิ่งไปช่วยพ่อและแม่ที่อยู่ในบ้านให้ออกมาได้อย่างปลอดภัย และตนก็พยายามที่จะขนของออกมาจากบ้านแต่เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เพื่อนบ้านก็ไม่กล้าเข้าไปขนเพราะความร้อนของเพลิงที่ลุกไหม้ ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง