วัยรุ่นซิ่งกระบะแหกโค้งชนเละ ดับสยอง 4 สาหัส 3

วัยรุ่นซิ่งกระบะแหกโค้ง พุ่งชนป้ายไฟจราจรเกาะกลางถนน ก่อนเสียหลักชนต้นไม้ริมฟุตบาธ จนรถพังยับ ดับสยองคาที่ 4 ราย บาดเจ็บสาหัส 3 ราย เจ้าหน้าที่เร่งสอบพยานหาสาเหตุ

วันนี้ (9 ต.ค. 61) เวลา 02.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ศุภากร พรมรักษ์ รอง สว.สส.สภ.เมืองอำนาจเจริญ ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะแหกโค้งชนกับป้ายไฟจราจร ก่อนเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่ถนนสายบายพาสเส้นรอบเมืองอำนาจเจริญ มุ่งหน้าไปยังจังหวัดอำนาจเจริญ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพองค์การบริหารส่วนจังหวัด และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอำนาจเจริญ รุดไปยังที่เกิดเหตุ

ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบริเวณหน้าร้านขายอุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง บนถนนสายบายพาสเส้นรอบเมืองอำนาจเจริญ ก่อนถึงสี่แยกไฟแดงโตโยต้า พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊ก 4 ประตู สีชมพู หมายเลขทะเบียน งจ 5997 ชลบุรี อยู่ในสภาพที่พังยับเยินทั้งคัน ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บสาหัสที่กระเด็นออกมาจากตัวรถคันดังกล่าว 3 คน เสียชีวิต 1 ราย จึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพองค์การบริหารส่วนจังหวัด นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอำนาจเจริญโดยด่วน

โดยมีผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ภายในซากรถคันดังกล่าว 3 คน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอำนาจเจริญ ใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ภายในซากรถออกมา รวมมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการ์ดังกล่าวทั้ง 4 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 1 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายธีรภัทร มีแสง อายุ 18 ปี, นายเชษฐา สุวะมาตร อายุ 16 ปี, นายศักดิ์สิทธิ์ ยืนยง อายุ 22 ปี และ น.ส.กาญจนา คำปาน อายุ 18 ปี ส่วนผู้ที่ได้บาดเจ็บสาหัสมีทั้งหมด 3 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายนันทกร ไตรวงศ์ อายุ 23 ปี, นายสุชาติ สมาทอง อายุ 22 ปี (คนขับ) และ นายบัณฑิต หวังผล อายุ 18 ปี

เบื้องต้น ร.ต.อ.ศุภากร พรมรักษ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ให้การว่า รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับมาจากทางทิศเหนือ ฝั่งตัวเมืองอำนาจเจริญ ซึ่งคาดว่าจะขับมาด้วยความเร็วสูง ทำให้รถเกิดเสียหลักขณะที่ขับมาถึงทางโค้งจนทำให้รถคันดังกล่าวพุ่งชนเข้ากับเสาไฟสัญญาณจราจรที่อยู่เกาะกางถนน ก่อนที่รถจะเสียหหลักหมุนไปชนกับต้นไม้ข้างทางริมฟุตบาธ และหมุนมาชนเข้ากับเสาป้ายบอกทางโค้ง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนพยาน เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป