‘วาสนา-ปริญญา’ อดีต กกต. พ้นคุก!

ประเด็นคือ – ราชทัณฑ์มีมติพักโทษนักโทษเด็ดขาด 238 ราย “วาสนา-ปริญญา” เฮได้พักโทษ ปล่อยตัวแล้ว หลังติดคุกแล้ว 1 ปี 6 เดือน 13 วัน

วันที่ 13 ธ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ช.ปริญญา นาคฉัตรีย์ อายุ 76 ปี และน.ช.วาสนา เพิ่มลาภ อายุ 76 ปี อดีต กกต. ได้รับการปล่อยตัวหลังทั้งคู่ต้องโทษจำคุก 2 ปี ในความผิดฐานกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดหรือกระทำการหรือละเว้นกระทำการโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบในการปฎิบัติหน้าที่ และได้ต้องโทษจำคุกมาแล้ว 1 ปี 6 เดือน 13 วัน

แฟ้มภาพ ปริญญา นาคฉัตรีย์ อดีต กกต. จากเพจ topicza.com

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า วานนี้คณะกรรมการพักการลงโทษ ซึ่งมี!นายวิทยา สุริยะวงค์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนกรมคุมประพฤติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาพักโทษให้กับผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์การพักการลงโทษ โดยต้องโทษจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 ของโทษจำคุกที่ศาลมีคำพิพากษา โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้พักการลงโทษนักโทษเด็ดขาด จำนวน 283 ราย ในจำนวนนั้นมี น.ช.ปริญญา และน.ช.วาสนา รวมอยู่ด้วย

แฟ้มภาพ วาสนา เพิ่มลาภ อดีต กกต. จากเพจ pantip 

ทั้งนี้ นักโทษที่ได้รับการพักโทษยังต้องมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติเดือนละ 1 ครั้ง จนกว่าจะหมดโทษจำคุกที่เหลืออยู่ และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมประพฤติอย่างเคร่งครัด หากมีการฝ่าฝืนข้อห้ามของกรมคุมประพฤติ จะถูกยกเลิกการพักโทษ และนำตัวกลับมาเข้าเรือนจำจนกว่าจะครบกำหนดโทษได้

สำหรับน.ช.ปริญญา, น.ช.วาสนา และ น.ช.วีระชัย แนวบุญเนียร อดีต กกต. (เสียชีวิตแล้ว) ถูกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 และ พ.ร.บ.คณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 กรณีที่ไม่เร่งสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ข้อร้องเรียนกล่าวหาพรรคไทยรักไทยว่าจ้างพรรคแผ่นดินไทย และพรรคพัฒนาชาติไทย ลงรับสมัครเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.2549 ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและการวินิจฉัย พ.ศ.2542 กระทั่งหลังวันเลือกตั้งได้ประกาศผลเลือกตั้งอย่างเร่งรีบ ซึ่งจะมีผลให้ทางพรรคไทยรักไทยได้จัดตั้งรัฐบาล โดยศาลฏีกาได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.59 ให้จำคุกทั้งสอง คนละ 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ พร้อมทั้งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งคนละ 10 ปี