วิกฤตราคาสับปะรด! เกษตรกรราชบุรีสุดช้ำแจกสับปะรดฟรีหลังเป็นหนี้ 4 แสนบาท

เกษตรกรปลูกสับปะรดใน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เดือดร้อนหนักหลังราคาสับปะรดตกต่ำในรอบ 30 ปี ตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์แจกสับปะรดให้กินฟรี หลังเป็นหนี้ 4 แสนบาท โดยได้ตัดมากองไว้ที่ศาลาที่พัก หน้าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจันให้กับคนที่สนใจได้นำกลับไปกิน 

วันนี้ (20 มิ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรสวนสับปะรดใน อ.ปากท่อ อ.บ้านคา อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และพื้นที่อื่น ๆ กำลังตัดผลผลิตเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไปได้กิน หลังสับปะรดมีราคาตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรทั่วประเทศที่ปลูกสับปะรด ขณะนี้ต้องประสบภาวะขาดทุนในรอบ 30 ปี เนื่องจากปีนี้ (2561) ผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันส่งผลทำให้ราคาตกต่ำ จึงทำให้ได้รับความเดือดร้อน ทำให้เกษตรกรบางรายตัดสินใจนำผลผลิตที่ไร่ของตนเองตัดใส่รถอีแต๋นเตรียมนำไปแจกให้แก่เพื่อนบ้านและไปถวายพระที่วัดได้กินฟรี ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ในไร่ก็จะสุกเน่าคาต้น

นางมุนิตา มหาลาภก่อเกียรติ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่  128 / 1 หมู่ 4 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ ที่ไร่ปลูกสับปะรดอยู่ประมาณ  100 ไร่ มานานกว่า 30 ปีแล้ว ถือเป็นวิกฤตแห่งวงการปลูกสับปะรดในประวัติศาสตร์ที่ราคาตกต่ำถึงขีดสุด โดยปีนี้มีผลผลิตที่เก็บได้ราวๆ 100 ตัน ทุกปีราคาไม่ตกต่ำมากมายเหมือนปีนี้ ซึ่งตกต่ำมาก มีบางส่วนได้นำไปวางขายตามแผงร้านค้าและขายส่งโรงงานอยู่บ้าง อีกส่วนก็จะตัดเอาไปแจกเพื่อนๆ และตามสถานีวิทยุชุมชนที่รู้จัก โดยเอาไปฝากให้แจกคนที่รู้จักได้รับประทานต่อๆกันไปในกลุ่มของเพื่อนฝูง หรือบางที่หากรู้จักและสนใจก็จะบอกให้ขับรถมาที่ไร่ เพื่อมาเอาสับปะรดไปแจกให้กับเพื่อนคนอื่นๆได้กินฟรี  นอกจากนี้ก็ยังนำไปถวายวัด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ให้มันสุกก็จะเน่าคาต้นไม่ได้อะไรขึ้นมา

ส่วนนายชาญชัย ทองก้อน อายุ 54 ปี  อยู่บ้านเลขที่  127 หมู่ 5 ต.ยางหัก เปิดเผยว่า ปลูกสับปะรดอยู่ประมาณ 22 ไร่ มานาน 4 ปี  มาปีนี้ราคาตกต่ำมาก ช่วงนี้ผลผลิตเหลือจากการที่จะต้องนำไปขายได้แล้ว พอที่ไร่มีสุกก็จะเอาดิบ พอมีดิบก็จะเอาสุก เหมือนกันกลไกตลาดที่มีปัญหาล้นตลาดอยู่ขณะนี้ เหลือมากก็รู้สึกเสียดาย หากทิ้งไว้ในไร่ ซึ่งบางคนไม่มีสับปะรดกิน หากเอาไปแจกให้กินน่าจะดีกว่า  ถ้าตัดใส่รถบรรทุกไปขายก็จะมีเรื่องค่าน้ำมันมาเกี่ยวข้องอีก

พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้ยังเป็นหนี้สหกรณ์ปากท่อ ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรง  ค่ารถไถ ค่าหน่อ ลงทุนทั้งของเก่า ของใหม่เพิ่มอีก 6 ไร่ รวมกว่า 4 แสนบาท  ซึ่งแต่ละปีจำเป็นต้องใช้เงินในการใส่ปุ๋ยบำรุงหน่อสับปะรด เนื่องจากระยะการปลูกจะอยู่ประมาณ 5 ปี หลังจากที่ลงเหง้าปลูกแล้ว เมื่อนำปุ๋ย ยาบำรุงต่ออีกก็จะได้ผลผลิตเก็บขายได้ในปีต่อไป ช่วงที่ผ่านมาปีนี้เคยขายได้กิโลละ 1.50- 1.80 บาท มาช่วงนี้เหลือแค่กิโลกรัมละ 1 บาท  สู้แจกให้เพื่อนบ้านได้กินดีกว่า  โดยเอาไปแจกให้พรรคพวก และเพื่อนบ้านแถวพื้นที่ใกล้เคียง  นอกจากนี้ยังนำไปกองไว้ที่ศาลาทางเข้าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจันพร้อมทั้งได้เขียนป้ายข้อความติดไว้ที่ศาลาว่า

“แจกฟรีสับปะรดเอาไปกินนะ ดีกว่าขายไม่คุ้มค่าน้ำมัน จากไร่ ( จ ) วังมังกร “

อย่างไรก็ตาม หลังจากตัดผลผลิตขนขึ้นรถแล้ว ก็ได้นำมาจอดที่บริเวณศาลาหน้าทางเข้าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัดเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวน้ำตกและแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง และได้แวะจอดรถเพื่อรับสับปะรดไปกินฟรี ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวยังได้สอบถามข้อมูลความเป็นมาเหตุผลของการนำมาแจกให้กินฟรี ซึ่งหลายคนเมื่อทราบข่าวก็รู้สึกสงสารเห็นใจ  ขณะที่ยังคงมีพื้นที่เกือบทั่วประเทศที่เกิดภาวะวิกฤติสับปะรดราคาตกต่ำอย่างหนัก จึงอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเร่งแก้ไขปัญหาราคาสับปะรดให้แก่เกษตรกรที่กำลังเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนด้วย