Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – โซเชียลแชร์คลิป แท็กซี่สีชมพูดัดแปลงไฟท้ายรถ แต่งกระพริบ สร้างความรำคาญให้เพื่อนร่วมทาง กรมการขนส่งทางบกระบุโทษชัด ปรับหนัก-ยึดใบขับขี่สั่งระงับการใช้รถ

วันที่ 10 ต.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก ‎ไอร้ อ๊ะ อุ้ม’ม‎ ได้โพสต์คลิปรถแท็กซี่คันหนึ่งดัดแปลงไฟท้ายรถ โดยแต่งไฟเบรกให้เป็นแบบกะพริบ โชเชียลรุมถามรถสาธารณะใช้ไฟแต่งได้หรือ? สำหรับกรณีดังกล่าว กรมการขนส่งทางบก ระบุไว้ว่า รถโดยสารสาธารณะที่ดัดแปลงโคมไฟหน้า-โคมไฟท้ายรถ ให้มีแสงสว่างจ้ามากจนเกินไป ใช้แสงกะพริบ หรือแสงสีต่างๆ ที่ส่งผลต่อความปลอดภัย มีความผิดตามกฎหมาย ปรับสูงสุด 50,000 บาท ส่วนรถตาม พ.ร.บ.รถยนต์ ปรับสูงสุด 2,000 บาท แนะ!!! แก้ไขให้ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัย

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้รับแจ้งจากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเกี่ยวกับกรณีที่ได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากรถโดยสารไม่ประจำทาง รถบัสเช่าเหมา ที่ติดตั้งโคมไฟจำนวนหลายดวงบริเวณโดยรอบด้านหน้าและด้านท้ายของตัวรถ รวมถึงรถโดยสารสาธารณะประเภทอื่นๆ เช่น รถตู้โดยสาร ที่มีการปรับแต่งทิศทางการส่องสว่างของโคมไฟหน้ารถให้สูงขึ้นจากเดิม หรือดัดแปลงอุปกรณ์ส่วนควบหรือเพิ่มเติมส่วนหนึ่งส่วนใดเข้าไป จนทำให้แสงมีความสว่างจ้ามากจนเกินไป การดัดแปลงโคมไฟท้ายรถเป็นแสงกะพริบหรือใช้แสงสีต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับโคมไฟต่าง ๆ ของรถทุกประเภทไว้แล้ว ทั้งตำแหน่งการติดตั้ง จำนวนโคมไฟ ความสว่าง ทิศทางการส่องสว่างและสีของแสง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งาน เช่น รถโดยสารกำหนดให้มีโคมไฟแสงพุ่งต่ำได้ไม่เกิน 2 ดวง และมีโคมไฟแสงพุ่งไกลได้ไม่เกิน 2 ดวง โดยมีแสงขาวหรือเหลืองอ่อน ไม่สว่างจ้าจนเกินไป ติดตั้งอยู่ในระดับเดียวกันที่หน้ารถด้านซ้ายและขวา สูงจากผิวทางไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร และต้องมีทิศทางส่องสว่างไปด้านหน้าโดยจะต้องไม่เบี่ยงเบนไปทางด้านขวา หรือส่องขึ้นสูงเกินไปจนทำให้รบกวนสายตาผู้อื่น

ส่วนโคมไฟเลี้ยวต้องเป็นแสงสัญญาณกะพริบสีอำพัน ติดที่ด้านหน้า 2 ดวง ด้านท้าย 2 หรือ 4 ดวง โคมไฟหยุด ติดตั้งที่ด้านท้าย จำนวน 2 หรือ 4 ดวง ต้องเป็นแสงแดงสม่ำเสมอคงที่ ไม่กะพริบ โคมไฟส่องป้ายทะเบียน เป็นแสงขาว จำนวน 1 หรือ 2 ดวง ติดตั้งที่ป้ายทะเบียนด้านท้ายของรถ เป็นต้น ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเข้มงวดตรวจสอบ กรณีพบรถโดยสารสาธารณะฝ่าฝืนดัดแปลงอุปกรณ์ส่องสว่างในลักษณะดังกล่าว เป็นความผิดตามตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 71 ฐานใช้รถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้องตามที่กำหนด ต้องระวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และอาจถูกสั่งระงับการใช้รถจนกว่าจะดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกัน

ในส่วนของรถที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ที่มีการแก้ไขดัดแปลงโคมไฟหน้าให้เป็นแสงสีอื่น หรือดัดแปลงอุปกรณ์ส่วนควบหรือเพิ่มเติมส่วนหนึ่งส่วนใดเข้าไป จนทำให้แสงมีความสว่างจ้ามากจนเกินไป มีความผิดตามมาตรา 12 ฐานเพิ่มเติมสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพบรถที่มีการดัดแปลงอุปกรณ์ส่องสว่างผิดกฎหมายสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียน ได้ที่ E-mail : [email protected], LINE : 1584กรมการขนส่งทางบก, Facebook : https://www.facebook.com/dlt1584/ หรือ “1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ” โดยต้องแนบหลักฐานเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว ระบุสถานที่ เวลาที่พบเหตุ ชื่อและข้อมูลผู้แจ้งเรื่องร้องเรียน เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โดยได้กำชับสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งเข้มงวดตรวจสภาพรถให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด และขอความร่วมมือสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) หากพบว่าอุปกรณ์ส่องสว่างของรถยนต์ที่เข้ารับบริการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องแจ้งเจ้าของรถแก้ไขให้ถูกต้องและให้ถือว่าผลการตรวจสภาพรถไม่ผ่าน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย หากแสงไฟส่องเข้าตาผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น ทำให้สายตาพร่ามัว อาจเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุได้ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า