วิศวกรชี้ การขุดเจาะหินถ้ำหลวง ช่วย 13 ชีวิต ทำได้แต่ล่าช้า

วิศวกรเชี่ยวชาญเหมืองหิน เผยวิธีการการขุดเจาะหิน ช่วย 13 ชีวิต ทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง สามารถทำได้ปลอดภัย แต่สภาพภูมิศาสตร์อาจไม่เอื้ออำนวย ส่วนการระเบิดหิน เป็นอันตรายต่อผู้สูญหาย

วันที่ 30 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เข้าสอบถามกับวิศวกรเหมืองหินที่บริษัท ส.ศิลาทอง ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ถึงกรณีที่แนวทางในการที่จะขุดเจาะหินภูเขาที่วนอุทยานถ้ำหลวง-เขานางนอน จ.เชียงราย ที่จะเข้าไปช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่า 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำว่าเป็นไปได้หรือไม่ เนื่องจากสภาพหินภูเขาที่หน้าพระลาน มีลักษณะเป็นเขาหินปูน คล้ายคลึงกับวนอุทยานถ้ำหลวง-เขานางนอน ที่ จ.เชียงราย

โดยนายวิรัช หลวงพิทักษ์ อายุ 69 ปี วิศวกรหน้าเมือง บริษัทฯ ดังกล่าว ซึ่งมีประสบการณ์ในขุดเจาะหินมานานกว่า 30 ปี เผยว่า การขุดเจาะเขาหินปูนนั้น ทำได้ยากและวิธีการแตกต่างกันในแต่ละภารกิจ เช่น เขาหินปูนที่หน้าพระลาน จ.สระบุรี มีแนวชั้นหินหลายรูปแบบ ทั้งแนวนอน แนวตั้ง และแนวเฉลียง ซึ่งที่ผ่านมาการขุดเจาะหิน จะทำเฉพาะในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นการระเบิดเพื่อทำลายและเปิดหน้างาน ในการที่จะระเบิดหรือขุดเจาะหินภูเขาจึงต้องดูหน้างานเป็นหลัก

ส่วนการขุดเจาะโดยอุปกรณ์เครื่องมือนั้น จะมีความสะดวกและสามารถขุดเจาะได้ลึก แต่ต้องใช้ระยะเวลานาน จึงอาจจะไม่ทันการสำหรับการที่จะไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายใน และจะต้องเป็นหัวขุดเจาะขนาดใหญ่ เช่น หัวขุดเจาะที่ใช้ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ แต่ในอุตสาหกรรมเหมืองหินเป็นหัวขนาดเล็กประมาณ 2-4 นิ้ว เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จากสภาพทางภูมิศาสตร์อาจจะไม่เอื้ออำนวย ในการที่จะขนย้ายอุปกรณ์เครื่องขุดเจาะหินขึ้นไปยังถ้ำหลวงได้ง่าย จึงเป็นปัญหาสำคัญว่าจะขนย้ายอุปกรณ์ขึ้นไปอย่างไร ส่วนการระเบิดนั้นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจะเกิดอันตราย เพราะการระเบิดหินคือการทำลาย และภูเขาใดที่มีถ้ำหรือโพรงอยู่ด้านใน จะทำให้หินผนังถ้ำพังถล่มซ้ำ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

อ่านข่าวอื่น: workpointnews.com

เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์   ตลาดข่าว   

ยูทูบ: workpoint news   

ทวิตเตอร์: workpoint news   

อินสตาแกรม: workpointnews