Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ศบค. ระบุแผนคุม 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ห้ามออกจากบ้านช่วงเคอร์ฟิว พร้อมขอจำกัดการเดินทางออกจากบ้าน เว้นซื้ออาหาร ยา พบแพทย์ ฉีดวัคซีน และงดเดินทางข้ามจังหวัด พร้อมระบุถ้าไม่มีมาตรการเข้มงวดจะมีผู้ติดเชื้อสูงสุด 3.1 หมื่นรายต่อวัน

วันที่ 19 ก.ค. 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับผู้สื่อข่าวในวันที่ 18 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา  ซึ่งมีการคาดการณ์ผู้ติดเชื้อโดยมีการนำเสนอ 2 รูปแบบ  คือ 

1.คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้ใช้ข้อมูลโควิด-19 ตั้งแต่วันแรกจนถึงถึงวันที่ 17 ก.ค. 2564 คาดการณ์ว่า สถานการณ์ที่แย่ที่สุด หากไม่มีการทำอะไร หรือไม่มีมาตรการ พบว่า จะเจอเคส ผู้ป่วยติดเชื้อรายวัน 31,997 ราย ต่อวัน แต่หากมีการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ 9,018-12,605 รายต่อวัน

2.จากการศึกษาการคาดการณ์ของธนาคารกรุงศรี ซึ่งทางองค์การอนามัยโลก ได้นำไปอ้างอิงโดยใช้รูปแบบของการฉีดวัคซีน ซึ่งถ้าหากเราฉีดวัคซีนได้ดี และวัคซีนมาได้ตามกำหนดช่วงเวลา ไตรมาสที่ 4 จะพบว่าในช่วงประมาณเดือน ส.ค. และ ก.ย. ปัจจุบันจะไต่ขึ้นไป คล้ายๆ ตอนนี้ จะสูงกว่า 15,000 รายต่อวัน แต่ถ้ามีการฉีดวัคซีนน้อย จะพบว่า มีผู้ติดเชื้อรายวัน ประมาณ 22,000 ในเดือน ส.ค. และ ก.ย.

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันและดีที่สุด คือต้องป่วยน้อย

นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงข้อกำหนดตามมาตรา 9 พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) ออกเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2564 กำหนดจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จาก 10 จังหวัดเพิ่มเป็น 13 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จาก 24 จังหวัดเป็น 53 จังหวัด พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จาก 25 จังหวัดเหลือ 10 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จาก 18 จังหวัดลดเหลือ 1 จังหวัด คือภูเก็ต

ทั้งนี้ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ได้แก่ กทม. นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ที่เพิ่มมาคือ ชลบุรี ฉะเชิงเทราและพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมาตรการคือห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวช่วงเวลา 21.00-04.00 น.

ส่วนเวลาอื่นให้งดออกนอกเคหสถานโดยไม่จำเป็นเช่นกัน ยกเว้นการเดินทางจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต คือ อาหาร ยา เวชภัณฑ์ พบแพทย์ รักษาพยาบาล รับวัคซีน และการประกอบอาชีพที่ไม่สามารถ Work From Home ได้ 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จะตั้งด่านบริเวณขอบของจังหวัดแดงเข้ม รวมถึงด่านตรวจภายในการเข้าออกเส้นสมุทรปราการไปภาคตะวันออกด้วย ทำให้การเดินทางเข้าออกไม่สะดวก เพราะจะมีการตรวจเอกสาร 3 อย่าง คือ 

-หลักฐานการอนุญาตจากเจ้าพนักงานในพื้นที่ เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เป็นต้น 

-ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะที่ด่านตรวจ 

-ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ COVID19.in.th แสดงคิวอาร์โคดต่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ

ถ้าไม่จำเป็นอย่าเดินทาง อยู่ในเคหสถาน ทั่วโลกใช้ล็อกดาวน์ คือ อยู่กับบ้านสำคัญสูงสุดเป็นหลักการสากล ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหารจะทำงานด้านนี้เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะด่านถ้ารถมากก็ยิ่งติดไม่สะดวกในการเดินทาง ความสะดวกสบายไม่เกิดขึ้น ทำให้ต้องตัดสินใจใหม่ไม่อยากออกจากบ้าน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันนี้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ส่วนขนส่งสาธารณะ ให้กระทรวงคมนาคม กทม. จังหวัด หน่วยงานรับผิดชอบ จำกัดจำนวนผู้โดยสาร 50% ของความจุยานพาหนะแต่ละประเภท การจำหน่ายอาหารให้ขายกลับบ้านถึง 20.00 น. 

ห้างให้เปิดเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ยาและเวชภัณฑ์ และพื้นที่ฉีดวัคซีนเท่านั้นถึง 20.00 น. 

ส่วนร้านวัสดุอุปกรณ์ห้างซ่อมบ้าน โทรคมนาคม ธนาคาร โรงพยาบาล คลินิกรักษาโรค ร้านขายยา ร้านค้าทั่วไป ที่อยู่นอกห้างให้เปิดได้

ส่วนสวนสาธารณะ ร้านตัดผมต่างๆ ให้รอการประกาศของแต่ละจังหวัดว่าจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป 

สำหรับโรงแรมห้ามจัดประชุม สัมมนา จัดเลี้ยง 

ร้านสะดวกซื้อตลาดสดเปิดถึง 20.00 น. แต่หากมีการติดเชื้อสูงแต่ละจังหวัดพิจารณาสั่งปิดได้ตามความจำเป็น โรงเรียนสถาบันการศึกษายังปิดอยู่ ห้ามรวมกลุ่มเกิน 5 คน ที่เคยอนุญาตแล้วให้ขอใหม่ การอบรมสัมมนาภาครัฐให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนราชการ Work From Home ให้สูงที่สุดเต็มจำนวน ฝ่ายเอกชนก็ขอความร่วมมือเช่นกัน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า