ศูนย์สุขภาพฯสภากาชาด ฉะรร.ชายชื่อดังใน กทม.จัดเสวนา “เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เบี่ยงเบน”

แทนเจอรีนฯ ไม่เห็นด้วย รร.ชายล้วนชื่อดังในกรุงเทพฯ จัดเสวนา “เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เบี่ยงเบน” ชี้ละเมิดสิทธิฯ ตีตราคนนำไปสู่ความรุนแรง เพราะคนข้ามเพศไม่ใช่คนผิดปกติ แนะควรจัด “เราจะเคารพความหลากหลายทางเพศในโรงเรียนได้อย่างไร” มากกว่า

วันที่ 30 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่วานนี้ โรงเรียนชายล้วนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เชิญผู้ปกครองนักเรียนมาร่วมฟังเสวนาที่โรงเรียน เรื่อง “เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เบี่ยงเบน” และถูกสังคมโซเชียลโจมตีอย่างหนัก จนต้องลบโพสต์ดังกล่าวออกจากแฟนเพจของโรงเรียนนั้น

ล่าสุดวันนี้ ศูนย์สุขภาพชุมชนแทนเจอรีน ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ได้โพสต์ผ่านแฟนเพจ “Tangerine Community Health Center” ไม่เห็นด้วยที่โรงเรียนจัดงานเสวนาดังกล่าว ชี้ละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชนสากล เนื่องจาก “คนข้ามเพศ” ไม่ได้ถือเป็นความผิดปกติทางจิต การตีตราคนรักเพศเดียวกันนำไปสู่การรังเกียจ การถูกกลั่นแกล้ง หรือการใช้ความรุนแรงในสถาบันการศึกษา และอาจนำไปสู่ความคิดในการฆ่าตัวตาย แนะควรจัดเสวนา “เราจะเคารพความหลากหลายทางเพศในโรงเรียนได้อย่างไร” มากกว่า โดยเพจดังกล่าวระบุข้อความดังนี้

“จากเหตุการณ์ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้เชิญผู้ปกครองเข้าฟังการบรรยายเรื่อง “เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เบี่ยงเบน” นั้น ทางศูนย์สุขภาพชุมชนแทนเจอรีน ของศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เห็นว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนี้

ประการแรก ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประกาศว่า “คนข้ามเพศ” ไม่ว่าจะเป็น หญิงข้ามเพศ ชายข้ามเพศ สาวประเภทสอง หรือกะเทย ไม่ได้ถือเป็นความผิดปกติทางจิตอีกต่อไป ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติทางการแพทย์ที่สำคัญ และทำให้เห็นว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิในการกำหนดอัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identity) ของตนเอง ซึ่งอาจจะแตกต่างจากเพศที่ถือกำเนิดมา

ในขณะที่ “คนรักเพศเดียวกัน” เช่น ชายรักชาย หรือหญิงรักหญิง นั้น ก็ถูกถอดถอนจากการตีความว่าผิดปกติทางจิตมานานแล้วเช่นกัน การเคารพในเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคลนั้น ก็ถือเป็นหลักการสิทธิมนุษยชนสากลที่ยอมรับทั่วกัน ในขณะที่สถาบันการศึกษาแห่งนี้อาจกำลังละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชนสากล ที่ว่าด้วยในสิทธิในการกำหนดเจตจำนงของบุคคล

ประการที่สอง การจัดหัวข้อการบรรยายครั้งนี้ เป็นการสร้างการตีตราให้กับผู้ปกครองและครอบครัวที่มีบุตรหลานเป็นคนข้ามเพศ หรือเป็นคนรักเพศเดียวกัน สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การรังเกียจ การถูกกลั่นแกล้ง หรือการใช้ความรุนแรงในสถาบันการศึกษาที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งจากเพื่อนร่วมชั้น รุ่นพี่ อาจารย์ และบุคลากรต่างๆ ในรูปแบบของการทำโทษ หรือการทำให้อับอายในที่สาธารณะ ซึ่งสถาบันการศึกษาอาจจะไม่เล็งเห็นถึงผลกระทบที่ตามมากับนักเรียนกลุ่มนี้ เช่น การปฏิเสธการไปโรงเรียน ภาวะหดหู่และซึมเศร้า การถูกทำร้ายร่างกาย การใช้สารเสพติด และอาจนำไปสู่ความคิดในการ ฆ่าตัวตาย ในที่สุด

ในทางกลับกัน หากสถาบันการศึกษาแห่งนี้ จัดการบรรยายเรื่อง “เราจะเคารพความหลากหลายทางเพศในโรงเรียนได้อย่างไร” เพื่อสนับสนุนให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง นักเรียน และครูอาจารย์ ได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความหลากหลายทางเพศ การไม่ตัดสินในเรื่องของอัตลักษณ์ทางเพศ พร้อมทั้งออกมาตรการในการป้องกันการกลั่นแกล้ง และการรังแกในสถานศึกษา เพื่อคุ้มครองสิทธิของนักเรียนที่มีความเปราะบาง สิ่งเหล่านี้จะทำให้สังคมโรงเรียนมีความน่าอยู่มากขึ้น เกิดการสร้างความเข้าใจร่วมกันในเรื่องของการเคารพกันและกัน พร้อมทั้งอาจจัดให้มีกลุ่มสนับสนุนพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดูแลบุตรหลานของตน

สถาบันการศึกษาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ในการหล่อหลอมให้นักเรียนยอมรับในความแตกต่าง และเห็นคุณค่าของมนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อที่ให้เค้าเหล่านั้นเติบโตขึ้นมาอยู่ในสังคมที่เคารพความหลากหลาย ทั้งในเรื่องเพศ เชื้อชาติ ศาสนา สีผิว อัตลักษณ์ทางเพศ หรือแม้แต่ฐานะทางเศรษฐกิจ และสังคม

นี่ปี 2018 แล้ว เรามาช่วยกันทำให้สังคมไทยของเราน่าอยู่ขึ้นกันดีไหม”

ภายหลังจากเรื่องดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ ชาวโซเชียลต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา และได้รับความสนใจ โดยมีผู้แชร์เรื่องราวดังกล่าวออกไปกว่า 1.2 พันครั้ง

(ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเพจ: Tangerine Community Health Center)