สตง.สั่งอายัดรถคันแรก 4,000 คัน

ประเด็นคือ – สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ประสานกรมสรรพสามิต และกรมขนส่งทางบก ปลดล็อคธุรกรรมโอนกรรมสิทธิ์รถคันแรก หากเจ้าของรถพิสูจน์หลักฐานว่าปฏิบัติตามเงื่อนไขครบถ้วน หลังสั่งอายัดตรวจสอบรายบุคคลแล้วเบื้องต้น 4 พันคัน ในโครงการรถคันแรก

วันที่ 2 ก.พ. 2561 นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รักษาการผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยอมรับว่า สตง. กำลังทยอยสุ่มตรวจผู้ขอใช้สิทธิ์ในโครงการรถยนต์คันแรก ตั้งแต่ปี 2558 จำนวน 4 พันคัน หลังพบข้อสงสัยว่า เจ้าของรถบางส่วน กระทำผิดเงื่อนไขโครงการ ประมาณ 1 พันคน คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 25 ของยอดการสุ่มตรวจ และอาจต้องดำเนินการเรียกคืนเงินภาษี จึงประสานให้กรมสรรพสามิต และกรมขนส่งทางบก ระงับธุรกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ชั่วคราว ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดในการทำงาน เนื่องจากเป็นโครงการที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก และถูกเร่งรัดให้อำนวยความสะดวกประชาชน

ทั้งนี้ หากเจ้าของรถ สามารถพิสูจน์หลักฐานครบถ้วนตามเงื่อนไขโครงการ ก็พร้อมประสานให้สองหน่วยงาน ปลดล็อครายชื่อ กลับมาโอนเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ได้ หากถือครองครบ 5 ปีตามเงื่อนไข

สำหรับการตรวจสอบ สตง.จะตรวจสอบ 9 เงื่อนไข เช่น ต้องซื้อระหว่างวันที่ 16 กันยายน 2554 ถึง 31 ธันวาคม 2555 หรือ จองซื้อตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2555 ถึง 31 ธันวาคม 2555 และรับมอบรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 เป็นรถขนาดลูกสูบ ไม่เกิน 1500 ซีซี ผลิตในประเทศ ไม่ใช่รถจดประกอบ ไม่ใช่รถมือสอง และถือครองรถไม่น้อยกว่า 5 ปี

โครงการรถยนต์คันแรก มีประชาชนใช้สิทธิ์ขอคืนภาษีจำนวน 1,250,000 คน กรมสรรพสามิตได้คืนเงินภาษีไปแล้ว จำนวนกว่า 1.9 ล้านคน คิดเป็นกว่า 91,000 พันล้านบาท และยังไม่ได้คืนภาษีจำนวน 150,000 คัน