ปาเลสไตน์ ฮึ่ม ! สหรัฐฯ จะตั้งสถานทูตในเยรูซาเลม ลูกสาวทรัมป์ร่วมพิธีเปิด

สหรัฐอเมริกาจะเปิดสถานทูตใหม่ในนครเยรูซาเลมวันนี้ ขณะที่อิวานก้า ทรัมป์ พร้อมสามีเป็นผู้แทนประธานาธิบดีสหรัฐฯ ร่วมพิธี ด้านชาวปาเลสไตน์จำนวนมากชุมนุมประท้วงคัดค้าน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐอเมริกาจะเข้าร่วมพิธีเปิดสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในนครเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล โดยมีลูกสาวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างนางอิวานก้า ทรัมป์ และสามีของเธอ นายจาเร็ด คุชเนอร์ เข้าร่วมด้วย

จาเร็ด คุชเนอร์ (ซ้าย), อิวานก้า ทรัมป์ (ขวา)

หลังจากเมื่อช่วงปลายปี 2560 นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกาได้ตัดสินใจรับรองอย่างเป็นทางการให้เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และให้ย้ายที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ จากกรุงเทลอาวีฟ มาประจำยังนครเยรูซาเลม ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์ไม่พอใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพวกเขาอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ทางตะวันออกของเยรูซาเลมคือเมืองหลวงของปาเลสไตน์

การตัดสินใจของนายทรัมป์ได้ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับกองทัพอิสราเอล ส่งผลทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย ขณะที่นานาชาติต่างวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะกระทบต่อการสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แห่งใหม่จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันนี้ (14 พ.ค.) ภายในสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ที่อยู่ในนครเยรูซาเลม ที่สำคัญวันที่ 14 พ.ค. ตรงกับวันครบรอบ 70 ปี แห่งการประกาศอิสรภาพของอิสราเอลด้วย

สำหรับนางอิวานก้า ทรัมป์ และนายคุชเนอร์ คือที่ปรึกษาระดับสูงของทำเนียบขาว โดยทั้งคู่เป็นตัวแทนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการร่วมพิธีเปิดสถานเอกอัครทูตแห่งใหม่ พร้อมด้วยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และนายจอห์น ซัลลิแวน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

โปสเตอร์ยกย่องประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ ถูกติดตั้งไว้บนผนังด้านนอกของโรงแรม Diplomat Hotel ซึ่งอยู่ติดกับที่ทำการสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ โดยจะเป็นสถานที่จัดพิธีเปิดสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แห่งใหม่ในนครเยรูซาเลม

อย่างไรก็ดี สหภาพยุโรปได้คัดค้านเป็นอย่างยิ่งต่อการย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกามาประจำนครเยรูซาเลม ขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เชิญทุกประเทศเข้าร่วมพิธีย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ จากเทลอาวีฟ มายังเยรูซาเลม

ด้านมาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ เรียกการตัดสินใจของนายทรัมป์ว่า “เป็นการตบหน้าแห่งศตวรรษ” ส่วนชาวปาเลสไตน์จำนวนหลายพันคนได้ชุมนุมประท้วงอยู่บริเวณตามแนวรั้วแบ่งเขตแดนอิสราเอลกับฉนวนกาซา ทำให้มองเห็นว่าปัญหาจากการย้ายสถานทูตจะนำไปสู่ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในฉนวนกาซา

มาห์มูด อับบาส (กลาง)

ตามรายงานระบุว่า มีผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์บริเวณพรมแดนมากกว่า 40 ราย ถูกสังหารโดยทหารอิสราเอล ขณะที่เจ้าชายเซอิด ราอัด เซอิด อัล-ฮุสเซ็น แห่งจอร์แดน ในฐานะทรงดำรงตำแหน่งข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้กล่าวหาอิสราเอลว่า “ใช้กำลังมากเกินไป”

อย่างไรก็ดี อิสราเอลยืนยันว่าได้กระทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อปกป้องพลเรือนของตนจากกลุ่มก่อการร้าย ที่พยายามละเมิดชายแดน

สำหรับสถานะของ ‘เยรูซาเลม’ วันนี้ ได้กลายเป็นหัวใจหลักสำคัญของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ โดยการที่อิสราเอลอ้างอธิปไตยเหนือนครเยรูซาเลมนั้น ก็ยังมิได้เป็นที่ยอมรับต่อนานาชาติ

ที่มา : BBC