สถานทูตไทย เชิญ ปชช.ร่วมบริจาคเงินช่วยผู้ประสบภัย สปป.ลาว เหตุวิกฤติเขื่อนแตก

สถานทูตไทยในเวียงจันทน์ ประกาศรับบริจาคเงินช่วยผู้ประสบภัยใน สปป.ลาว หลังเขื่อนแตกในแขวงจำปาสักและอัตตะปือ มีผู้สูญหายกว่า 200 คน บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก

วันที่ 24 ก.ค. 61ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ ได้ส่งสาส์นแสดงความเสียใจ ต่อกรณีเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำของบริษัท PNPC ผู้ก่อสร้างเขื่อนเซเปี่ยน-เซน้ำน้อย แตก เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 23 ก.ค. 61 เนื่องจากปริมาณน้ำอยู่ในเขื่อนมากไป ส่งผลให้น้ำ 5 พันล้านตัน ไหลลงเซเปี่ยน ท่วมบ้านเรือนเมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ ประมาณ 4,000 หลังคาเรือน จมน้ำมิดหลังคา มีประชาชนติดค้างจำนวนมาก ผู้สูญหายกว่า 200 คน โดยสถานทูตฯ ระบุข้อความว่า

“ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุอุทกภัยในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก”

ด้วยช่วงเช้าของวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 เกิดเหตุน้ำท่วมหนักในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก สปป.ลาว ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งในด้านการคมนาคมและด้านความเป็นอยู่ 

สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังรัฐบาล สปป.ลาว และประชาชนชาวลาว โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมครั้งนี้ 

ในโอกาสนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอเชิญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังรายละเอียดปรากฏตามประกาศสถานเอกอัครราชทูตฯ ด้านล่างนี้

ทั้งนี้ “ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์” ได้รายงานความคืบหน้าจากกรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ด้วยว่า ทางการลาว ประกาศขอความช่วยเหลือมายังหน่วยกู้ไพลาว 1623 เตรียมจัดกำลังพล 20 นาย และอุปกรณ์ เช่น เครื่องปั่นไฟ 6 เครื่อง รถพร้อมอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ 2 คัน เรือ 1 ลำ และ จนท.กู้ภัย 20 นาย ร่วมปฏิบัติภารกิจหลัก ตามหาผู้สูญหาย และช่วยเหลือผู้ติดบนหลังคา

นายฐาพล สมสกุล ครูกู้ภัยอาสาจากชมรมดำน้ำโคราช ประเทศไทย ครูผู้ฝึกสอนทีมกู้ไพลาว 1623 ระบุว่า การกู้ภัยทางน้ำครั้งนี้มีความยากตรงที่ ระดับน้ำท่วมเข้าขั้นระดับ 5 ในพื้นที่ต้องประสบกับน้ำท่วมสูงขึ้น จากปริมาณน้ำเขื่อน น้ำป่า และน้ำฝนที่ตกเพิ่มเติม อาจทำให้บ้านที่มีผู้ติดอยู่ได้รับอันตราย ซึ่งทีมกู้ภัยจำเป็นต้องทำการทบทวนแผนและเตรียมการให้รอบคอบ

ด้าน นายไพจิตร กอนประถม คณะรับผิดชอบหน่วยกู้ไพ 1623 มูลนิธิช่วยเหลือคนทุกข์ยาก สปป.ลาว ระบุว่า ทางการได้ประสานทางมูลนิธิเพียงแห่งเดียวเข้าไปร่วมปฏิบัติงาน โดยต้องวางระบบการบริการ การสั่งการ และจัดระบบประสานในที่เกิดเหตุ เพื่อให้การทำงานเป็นไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ ได้ความรู้จากการร่วมปฏิบัติงานในถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน

ล่าสุด เวลา 16.00 น. เจ้าแขวงอัตตะปือ จะปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำในเขื่อนเซเปี่ยนเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณกักเก็บน้ำเกินความจุ เสี่ยงอันตรายต่อตัวเขื่อนในจุดอื่น นั่นหมายถึง ประชาชนอยู่ท้ายน้ำ เช่น เมืองสะหนามไซ ต้องรองรับมวลน้ำมหาศาลอีกในเย็นนี้ ซึ่งสำหรับอุทกภัยครั้งนี้ เป็นความรุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์: workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews