ประเด็นคือ – หลังจากกฎหมายลูกของรัฐธรรมนูญ เรื่อง กกต. ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวานนี้ (13 ก.ย. 60) และมีผลบังคับใช้แล้ว ขณะนี้เริ่มเข้าสู่กระบวนการสรรหา กกต.ชุดใหม่ จำนวน 7 คน ซึ่งสนช.ระบุว่า ไม่เกิน 12 ธ.ค. ปีนี้ ต้องได้บุคคลที่เหมาะสม ส่งมาให้ที่ประชุมโหวตคัดเลือก
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชี้แจงกระบวนการหลังจาก พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้แล้วว่า ตามพ.ร.ป.ฉบับนี้กำหนดให้ กกต. ชุดปัจจุบันพ้นจากตำแหน่งนับจากวันที่มีผลบังคับใช้ แต่ยังให้ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญได้กำหนดที่มาของ กกต.ชุดใหม่ไว้ 2 ทาง คือ
- ทางแรก มาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเป็นผู้เลือก จำนวน 2 คน
- ทางที่สอง มาจากการสรรหาของคณะกรรมการสรรหา จำนวน 5 คน โดยคณะกรรมการสรรหา ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน และกรรมการจากประธานศาลปกครองสูงสุด , ประธานสภาผู้แทนราษฎร , ตัวแทนศาลรัฐธรรมนูญและตัวแทนองค์กรอิสระที่ไม่ใช่ กกต. องค์กรละ 1 คน
โดยขณะนี้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะเลขานุการของคณะกรรมการสรรหาได้ส่งหนังสือไปยังองค์กรดังกล่าวให้เลือกตัวแทนเข้ามาทำหน้าที่ “คณะกรรมการสรรหา” แล้ว
ทั้งนี้มีระยะเวลาในการสรรหา กกต.ชุดใหม่จากทั้ง 2 ทาง ภายใน 90 วัน คือ ต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 12 ธันวาคม 2560 จากนั้นคณะกรรมการสรรหาต้องส่งรายชื่อบุคคลที่ได้รับการสรรหาให้สนช.พิจารณาเห็นชอบภายใน 45 วัน โดยจะพิจารณาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบเป็นรายบุคคล หากไม่เห็นชอบคณะกรรมการสรรหาจะต้องกลับไปสรรหาใหม่และเสนอมายังสนช.พิจารณาอีกครั้ง
นายพรเพชร ระบุด้วยว่า ยังบอกไม่ได้ว่ากระบวนการต่างๆ จะกระทบกับโรดแมปเลือกตั้งที่วางไว้ในปี 2561หรือไม่ เพราะยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งอีก 2 ฉบับที่อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ