SHARE

คัดลอกแล้ว

16 ก.ย. ชวนดูการแข่งม้านัดสุดท้าย ก่อนปิด “สนามม้านางเลิ้ง” พร้อมเบื้องหลังความเปลี่ยนแปลงของสนามม้าในตำนาน

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา การเปลี่ยนแปลงของ “สนามม้านางเลิ้ง” หรือ “สนามม้าไทย” ไปในทิศทางพัฒนาทางด้านการพาณิชย์มากขึ้น หลังจากที่เดือน มี.ค.- เม.ย. 2561 มีการปรับใหญ่ใน ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ใหม่ โดยแก้ไขปรับเปลี่ยนทิศทางการบริหารงาน ให้หลุดพ้นภาวะขาดทุนสะสมเหมือนในอดีต

อาณาจักรที่เคยรุ่งเรืองมาในยุค “ทหารแก่” ฐานที่มั่นของ “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธ์ ถูกยึดอำนาจจากสายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผ่านทางน้องรัก “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน  ณ อยุธยา อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ที่ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการราชตฤณมัยสมาคมฯ แทน “เสธ.อ้าย” ปีที่แล้ว

โดย “เสธ.อ้าย” ไปนั่งในตำแหน่งรองประธานบอร์ดราชตฤณมัยฯ มี “บิ๊กตุ๊ด” พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ อดีต รองผบ.ทบ. เป็นประธาน

http://www.manager.co.th/Weekend/ViewNews.aspx?NewsID=9600000035260

กระนั้น สายสัมพันธ์ของ “บิ๊กน้อย” กับ “เสธ.อ้าย” ไม่ได้เป็นคนละขั้ว เพราะมีความใกล้ชิดกันอย่างยาวนานตั้งแต่รุ่นพ่อ เนื่องจาก “บิ๊กน้อย” เป็นบุตรชายของ “เสธ.ยศ” พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลเกรียงศักดิ์ ซึ่งเคยเป็นอดีตประธานคณะกรรมการอำนวยการสนามม้านางเลิ้ง

“เสธ.ยศ” เป็นคนเปิดโอกาสให้ “เสธ.อ้าย” เพื่อนรักของ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ มาเป็นกรรมการแข่งม้า  และ ปี 2545 “เสธ.อ้าย” ได้รับเลือกจากคณะกรรมการอำนวยการให้เป็น เลขาธิการกิตติมศักดิ์ และประธานอำนวยการแข่งขันม้า มีอำนาจคุมสนามม้านางเลิ้งเต็มตัว “เสธ.อ้าย” พร้อมมี “บิ๊กน้อย” เข้ามาเป็นกรรมการประชาสัมพันธ์

ทว่า “สนามม้านางเลิ้ง” มีภาพลักษณ์เป็นพื้นที่ของนักเสี่ยงโชค “รุ่นเก๋า” มี “โต๊ดเถื่อน” เกิดขึ้นภายในสนามมาเกือบทุกยุคทุกสมัย อาจเรียกได้ว่า เป็นพื้นที่พิเศษที่การพนันถูกกฎหมาย และผิดกฎหมาย สามารถอยู่ร่วมกันในสนามเดียวกันได้ จนถูกมองว่า เป็นแหล่งรวมของเหล่าบรรดานักเลง ผู้มีอิทธิพล คนมีสี ทหาร ตำรวจ  ที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถเอื้อมมือเข้ามาถึง

แม้ช่วงหลังปี 2535 กองทัพจะเคยมีนโยบายปราบ “ทหารมาเฟีย” โดยมอบหมายให้ พล.ต.บุญยัง บูชา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ( มทบ.11) ในยุคนั้นเข้าไปจัดระเบียบ “ปราบโต๊ดเถื่อน” เนื่องจาก เสธ.คนดัง กำลังเฟื่องฟู แต่ก็ทำได้เพียงห้วงระยะเวลาเดียวเท่านั้น

พอมายุคที่ “บิ๊กน้อย” นั่งเป็นเลขาธิการฯ  ภายใต้ร่มเงาของ “บิ๊กป้อม” จึงมีชื่อ “ผู้การฯโจ๊ก” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์  หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว “ตร.สายบิ๊กป้อม” ก็เข้าไปปราบปรามด้วยเช่นกัน แต่การปราบปรามดังกล่าว ก็ทำได้เพียงผิวเผิน

หากดูเนื้อในที่แท้จริง ปัญหาของ “สนามม้านางเลิ้ง”  คือ ขาดการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ ทำให้เจอกับปัญหาขาดทุนสะสม  จึงต้องหาแนวทางในการปรับปรุงขนานใหญ่ นำมาซึ่งการเฟ้นหาเอกชนเข้ามาร่วมทุนบริหารที่มีศักยภาพด้านเงินทุน และ “ไอเดีย” ที่ต่อยอดรายได้จากทรัพยากรที่มีอยู่

จาก “คอนเนกชั่น” หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 49  ที่มี “บิ๊กน้อย” กับ “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 1 และเป็นกรรมการในมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก กับ  เอกชัย ล้อเจริญวัฒนะชัย บุตรชายของ บำรุง ล้อเจริญวัฒนะกุล ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว และเป็นกรรมการมูลนิธิฯ ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ทำให้โครงการดังกล่าวเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

โดย ราชตฤณมัยสมาคมฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท บางกอก จ็อคกี้ คลับ จำกัด (Bangkok Jockey Club Co.Ltd.) หรือ BJC  มีกรรมการราชตฤณมัยฯ ไปนั่งบริหารด้วย 3 คน  โดยมีการปรับโฉมให้มีความทันสมัย  ภายใต้รูปแบบสถาปัตยกรรมร่วมสมัยภายในสนามม้า ที่มีอาคารเก่ารูปทรงสวยงาม เพื่อดึงดูดให้ผู้มาใช้บริการมาสัมผัส บรรยากาศของสถานที่แบบคลาสสิค ภายใต้การวางแนวทางของ “เอกชัย” ถือเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดทำ โครงการคอมมูนิตี้ ไฮว์ฟ แห่งนี้  ทั้งนี้ ราชตฤณมัยสมาคม และสมาคมกีฬากอล์ฟดุสิต ก็ยังดำรงอยู่

ขณะที่ พล.อ.บุญเลิศ เปิดเผยว่า เหตุที่ต้องทำสปอร์ตคลับแห่งใหม่ เพราะต้องพัฒนาเพื่อหารายได้เข้ามา ตอนนี้เราอยู่ไม่ได้ และถ้าปล่อยไว้ราชตฤณมัยสมาคมต้องตายแน่ๆ

“รัฐเอาภาษีมากไป ยกตัวอย่างเช่น คนแทงม้า  100 บาท จะต้องแย่งจ่ายค่ารางวัลให้คนเล่น 74 บาท ส่งเป็นภาษี 22.50 บาท (ภาษีการพนัน 10 % ภาษีกทม. 2.5 % นอกนั้นเป็น Vat สรรพากร ภาษีรายได้อีก 10 %)  ค่าจ้าง 16 บาท เหลือ 3.50 บาท มันก็ไม่มีอะไรเหลือ ถ้าจ่ายคนเล่นน้อยกว่านี้คนก็ไม่เล่นม้า ที่เจ๊งไปเหมือน ตุรกี  กับ ฟิลิปปินส์ เพราะรัฐเก็บค่าต๋งไว้เยอะ”

เขาบอกว่า ตอนนี้ ให้มีเอกชนเข้ามาลงทุนอาคารอเนกประสงค์ อาจจะเป็นที่โกนจุก แต่งงาน บวชนาคก็ไม่ได้เป็นการก่อสร้างใหม่ ไม่ต้องทำอะไร ปรับปรุงข้างในรูปลักษณ์ภายนอกก็เหมือนเดิม เพราะเป็นอาคารที่กรมศิลปากรขึ้นเป็นสมบัติของชาติไว้ จากนี้ก็จะมีการเก็บค่าสมาชิก มีห้องสันทนาการ สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส ห้องจัดเลี้ยง ถ้าอย่างน้อยมีการมาใช้สถานที่ซัก 3 วัน จะมีรายได้กว่าสิบล้านได้แน่นอน โดย นายทุนใหญ่ๆ คือ คนจีน-อินโดนีเซีย  ร่วมทุนกับทางหอการค้าจังหวัดสระแก้ว วางเป้าหมายการลงทุนไว้ 700 ล้านบาท

เสธ.อ้าย อธิบายว่า สำหรับอัตราค่าสมาชิกของ “สนามไทย” แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกเราก็รักษาสมาชิกเดิม เพราะราชตฤณมัยสมาคมยังมีอยู่ ราคาเหมือนเดิมคือ เดือนละ 50 บาท ค่าแรกเข้า 3 หมื่นบาท จำนวนประมาณพันกว่าคน มีทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน เจ้าของคอกม้า ซึ่งถูกมากเมื่อเทียบกับสนามฝรั่ง ที่เก็บในอัตรา 2-3 พันบาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสมาชิกเก่าหรือใหม่ โดยเริ่มจากเป็นสมาชิกของโปโลคลับก่อน อัตราสมาชิกแรกเข้าคือ 1 ล้านบาท จากนั้นจึงมาต่อคิวเป็นสมาชิกสปอร์ตคลับ เสียค่าแรกเข้า 2 ล้านบาท โดยจะพิจารณาจากบุคคลระดับ เอ็กซ์เซ็คคลูทีฟ ก่อน ในระยะต่อไป สำหรับ “สนามไทย” ที่มีการปรับปรุง อาจจะมีการเปิดสมัครสมาชิกอีกแบบหนึ่ง ซึ่งมีแนวโน้มในการมีกิจกรรมกับสปอร์ตคลับ มากกว่าสนามม้า

พล.อ.บุญเลิศ กล่าวอีกว่า ในส่วนของสนามม้าแข่ง เดิมเราก็คิดว่า จะได้ลดภาษีแต่ไม่มีใครกล้าให้เรา กรุงเทพฯ เก็บภาษี 10 %  ต่างจังหวัดเก็บ 5 % เราก็เคยขอไปว่าขอเก็บให้เท่ากันได้ไหม ทาง คสช.เขาก็ไม่ให้

“คนเล่นม้าลดลงไป เพราะรุ่นเก๋าที่เป็นสมาชิกอยู่มันตายปีละ 5 % คนเล่นม้าส่วนใหญ่อายุ 40-50 ปีขึ้นไปทั้งนั้น ส่วนพวกคนหนุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามเข้าสนามม้า เดิมคนที่เล่นม้าประมาณ 2 หมื่นคน ตอนนี้เหลือประมาณ 5 พันคน” พล.อ.บุญเลิศ ระบุ

กระนั้น เมื่อช่วงต้นปี 2560 ที่มีการเปลี่ยนกรรมการบริหารราชตฤณมัยสมาคมฯ ยังเคยถูก พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล ในฐานะสมาชิกสามัญราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย  ตั้งคำถามเกี่ยวกับกลุ่มทุนของบริษัท บางกอกจ๊อกกี้ คลับ จำกัด ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่า มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท มีกรรมการบริษัท 3 คน คือ นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนะชัย, นายโทนี่ แดนนิโจโน และนายฮอนูส แดนนิโจโน  และเมื่อตรวจสอบคนในตระกูลแทนดิโจโน ซึ่งเป็นตระกูลชาวอินโดนีเซีย ไม่พบว่า เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับการแข่งม้าแต่อย่างใด กลับพบว่า ทำธุรกิจเกี่ยวกับบ่อนการพนันในประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามจังหวัดสระแก้วเป็นหลัก

“สนามราชตฤณมัยฯ เป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การที่จะให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้ามาประกอบธุรกิจไม่สามารถกระทำได้” เขาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน พร้อมตั้งข้อสังเกต

แหล่งข่าวหนึ่งในผู้บริหารราชตฤณมัยสมาคมฯ เปิดเผยว่า แม้จะมีการปรับเปลี่ยน และมีเอกชนเข้ามาร่วมบริหารพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ แต่ก็ยังอยู่ในช่วงที่มีตัวเลขขาดทุนสะสมที่อยู่ การจะลงทุนเพื่อพัฒนาไปเต็มรูปแบบตามโครงการที่วางไว้ต้องรอดูสัญญาณที่แจ่มชัดเรื่องของที่ดินก่อน  ซึ่งล่าสุดทางราชตฤณมัยต้องคืนที่ดินส่วนดังกล่าวคืนหน่วยงานฯ และเรียกประชุมกับคณะกรรมการบริหาร เพื่อหาแนวทางรองรับต่อไป ซึ่งอาจต้องหาพื้นที่สร้างแห่งใหม่ ต้องคุยกับผู้ต้องการร่วมทุนกับเราด้วย

อนาคตข้างหน้าของสนามม้านางเลิ้ง จึงไม่ได้มีลู่ทางที่สดใส ตามการประเมินของนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่เห็นว่า ไม่ต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาล เนื่องจากต้นทุน จากทำเล-ที่ตั้ง อาคารที่ทรงคุณค่าประวัติศาสตร์ความเป็นมา และกลุ่มบุคคลที่เป็นแบ็ค มีอยู่พร้อมสรรพ

แต่ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน “สนามม้านางเลิ้ง” ที่เป็นแหล่งรวมของทหารในแวดวงผู้มีอิทธิพล อำนาจสีเทาในเงามืด แดนสนธยา ที่กำลังปรับตัวไปสู่การพัฒนาไปในรูปแบบเชิงพาณิชย์ สร้างสรรค์กิจกรรมการเสี่ยงโชคให้เป็นการกีฬาและสันทนาการ รองรับการปรับตัวของคนใน ‘เจนเนอเรชั่น’ ต่อไปจะเป็นจริงแค่ไหน เพราะแค่เริ่มก็ต้องนับหนึ่งใหม่ ในการต้องคำนวณลูกคิด และจัดเตรียมย้ายฐานที่มั่นกันแล้ว !!

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า